ยอดติดเชื้อโควิดภูเก็ตขยับ รับแซนด์บ๊อกซ์ เมื่อวาน 5 ราย เช้านี้อีก 5 ราย พบสายพันธุ์อินเดีย
ยอดติดเชื้อโควิดภูเก็ตขยับเพิ่ม หลังคนจากนอกพื้นที่ทยอยเดินทางเข้ามาทำงาน รับภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ จากกรุงเทพฯและปริมณฑล กำลังมาแรง ติดแล้วหลายคน ทั้งๆ ที่มีผลตรวจโควิดเป็นลบมาแสดงก่อนเข้าภูเก็ต สสจ.ยืนยันว่าพื้นที่ จ.ภูเก็ต ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต ในรายการ ผู้ว่าฯพบประชาชน เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในภูเก็ตระลอกเดือน เม.ย.นี้ ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 728 ราย โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 0-5 ราย และเมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 5 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด โดย 2 คน เป็นคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดสูงอยู่ในขณะนี้ และยืนยันว่าพื้นที่ จ.ภูเก็ต ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ตามที่มีการนำเสนอในสื่อสังคมออนไลน์ ล่าสุดได้ส่งตัวอย่างทั้ง 5 คนที่มาจาก กทม.ตรวจหาเชื้อสายพันธ์ุโควิดแล้ว
โดยคนไทยทั้งสองคนนี้ ได้เดินทางเข้ามาทำงานในภูเก็ตเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตผู้ติดเชื้อได้มีการตรวจคัดกรองแล้วโดยมีผลตรวจ Antigen Test เป็นลบมาแสดง ขณะนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึง 30 กว่าคน ทั้งหมดได้นำเข้าสู่การกักตัวแล้ว ส่วนอีก 3 คน เป็นคนไทยที่อยู่ในสถานที่กักตัวอยู่แล้ว
นายแพทย์สาธารณสุขภูเก็ต กล่าวต่อว่า สำหรับช่วงเช้าของวันนี้ (30 มิ.ย.) พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว 5 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด 3 คน เดินทางมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนอีก 2 คนกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่ามาติดมาจากไหนอย่างไร ส่วนวันนี้จะมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดกี่คนจะต้องรอรายงานในช่วงเย็นอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากในขณะนี้ ภูเก็ตกำลังจะเปิดเมือง “ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์” ทำให้คนจากนอกพื้นที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าทุกคนที่เข้ามาจะผ่านการคัดกรอง การฉีดวัคซีน และมีใบตรวจหาเชื้อโควิดมาแสดง แล้วก็ตาม แต่ก็ยังพบการติดเชื้อโควิดเกิดขึ้นในพื้นที่ ดังนั้นทุกจะต้องปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
เครดิตแหล่งข้อมูล : Phuket Hotnews
