จ.ร้อยเอ็ด – ร.ต.ท.ออกระงับเหตุหนุ่มเมาสุราคลั่งอาละวาด เจอฟันแขนเจ็บเลยต้องยิงสวนป้องกันตัว ก่อนถอยหนี แต่พลาดท่าลื่นล้มโดนอีกฝ่ายตามมาฟันหัวซ้ำ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่รพ.
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พ.ต.ท.มงคล พนาดร สว.(สอบสวน) สภ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุมีชายเมาสุราอาละวาด อยู่ที่พื้นที่บ้านม่วง หมู่ที่ 7 ต.ดอกล้ำ อ.ปทุมรัตต์ จึงประสานชุดสายตรวจร้อยเวร 20 ประกอบด้วย ร.ต.อ.สุระ ปลายไม้ ร.ต.ท.ไพทูรย์ ไทยโสภา และ ร.ต.ท.อุทัย จ่าภา อายุ 55 ปี รอง สวป.สภ.ปทุมรัตต์ ออกไประงับเหตุ พบ นายกนกพล ยอดไทย อายุ 25 ปี อยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก ในมือมีอาวุธมีดอีโต้ ยาว 50 ซม.ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านยาย โดยมีแม่ยืนเกลี้ยกล่อมให้กลับบ้าน
ต่อมา นายกนกพล เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ร.ต.ท.อุทัย กับพวก จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าระงับเหตุ และเจรจา แต่ นายกนกพล ได้ใช้มีอีโต้ฟันเข้าที่แขน ร.ต.ท.อุทัย จึงได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกาย ขนาด 9 มม. ยิงสวนออกไป 3 นัด เพื่อป้องกันตัว กระสุนถูกหน้าท้องผู้ต้องหา 1 นัด จากนั้น ร.ต.อ.อุทัย ก็ถอยออกมาแต่เสียหลักล้มลง จึงถูก นายกนกพล ตามมาฟันที่ศีรษะ 2 ครั้ง จนหมดสติในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา ผกก.สภ.ปทุมรัตต์ ได้รุดมาตรวจสอบที่เกิด จึงสั่งการให้รีบนำตัว ร.ต.อ.อุทัย ส่ง รพ.ปทุมรัตต์ แต่อาการหนักจึงส่งต่อไปยัง รพ.ร้อยเอ็ด กระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วน นายกนกพล ผู้ก่อเหตุที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ญาตินำพาไปรักษาตัวที่ รพ.ปทุมรัตต์ ตำรวจจึงติดตามไปทำการอายัดตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหา เสพสุราหรือของเมาอย่างอื่น เป็นเหตุให้มาประพฤติตนวุ่นวาย หรือครองสติไม่ได้ ขณะอยู่ในทางสาธารณะหรือสาธารณะสถาน, กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ, พาอาวุธ (มีด) ติดตัวไปใน เมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ, ต่อสู้หรือขัดขืนในการปฏิบัติการตามหน้าโดยใช้อาวุธ (มีด) และฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือจะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เย็นวันเดียวกัน ญาติได้นำศพ ร.ต.อ.อุทัย มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสระปทุม ต.บัวแดง อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด บ้านเกิด โดยมี พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ โดยมีครอบครัว ญาติ ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน เดินทางมาร่วมงานศพ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนี้ พล.ต.ท.ยรรยง ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับเหตุลักษณะนี้มากยิ่งขึ้น.
