เมื่อวันที่ 12 พ.ค. คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติมีมติปูพรมเร่งฉีดวัคซีนในประชาชนเริ่มต้นเดือนมิถุนายนนี้ เปิดให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมาย พร้อมเร่งจัดหาวัคซีนจากช่องทางอื่นๆเพิ่มเติม ตั้งเป้า 150 ล้านโดส
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ การหารือเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่จะจัดหา 100 ล้านโดส เพิ่มเป็น 150 ล้านโดส เร่งทำงานเชิงรุก เจรจาจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นๆเพิ่มเติม ปรับแผนการฉีดวัคซีน เปิดปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนโดยเริ่มต้นทันทีในเดือนมิถุนายนนี้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ
1.กลุ่มที่มีการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นหรือ LINE แอดหมอพร้อม
2. การจัดขอเข้ารับรถชีนเป็นกลุ่มหมู่คณะ เช่นในโรงงาน หรือสถานประกอบการขนาดใหญ่
3.เปิดให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้ารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมาย
ส่วนของวัคซีน ที่ภาคเอกชนกำลังจัดหาเพื่อเป็นทางเลือกในขนาดนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขององค์การเภสัชกรรมในการประสานข้อมูลทั้งนี้ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถนำเข้าได้
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุแผนการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนนั้น ทางกรมควบคุมโรคมีแผนต้องฉีดวัคซีนในคลอบคลุมร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนในแต่ละจังหวัดทังนี้โดย พื้นที่ซึ่งมีการระบาดเช่นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแต่ก็เป็นไปตามความสมัครใจในการรับวัคซีน
โดยแผนการเดินทางมาฉีดให้ประชาชน สามารถเข้ามารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมายนั้น จะเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีประวัติการรักษาในสถานพยาบาล เป็นบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น กลุ่มพนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆที่จัดให้เป็นจุดวัคซีน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่งมีระบบระบายอากาศมีระบบระบายอากาศและรองรับคนจำนวนมากได้เพื่อลดความแออัดเช่นสถานีกลางบางซื่อ จามจุรีแสควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์บางกะปิ
โดยมีการแบ่งสัดส่วนของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในแต่ละจุดแตกต่างกันตาม สถานการณ์และการประเมินของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้นๆ เช่น อาจกำหนดให้กลุ่มที่มาตามกันนัดหมายผ่าน LINE แอดหมอพร้อมหรือแอพพลิเคชั่นหมอพร้อมร้อยละ 30 กลุ่มประชาชนที่ทางโรงพยาบาลประสานร้อยละ 50 และผู้ที่เดินทางเข้ารับวัคซีนด้วยตนเองโดยมิได้นัดหมายร้อยละ 20 โดยการเข้ารับวัคซีนนั้นจะใช้เกณฑ์ตามข้อบ่งชี้การใช้ทางการแพทย์ ไม่มีการเลือกยี่ห้อวัคซีนเองได้
ทั้งนี้หากจังหวัดใดมีความพร้อมทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งหลังการเข้ารับวัคซีนแล้วประชาชนต้องลงทะเบียนเพื่อติดตามผลและประเมินอาการผ่านแอพพลิเคชั่นหรือ LINE แอดหมอพร้อม ส่วนกรณีไม่มีแอปพลิเคชั่นในการติดตามผลจะมีเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขหรือโรงพยาบาลเป็นผู้ติดตามอาการหลังการรับวัคซีน
ส่วนกลุ่มอื่นเช่นกลุ่มเปราะบางกลุ่มคนด้อยโอกาส ทุกคนต้องได้รับวัคซีน แน่นอน แต่อยู่ในระหว่างจัดทำแผนรองรับเพื่อความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีน ที่ปลอดภัย
ชาวต่างที่อยู่ในประเทศไทย จะประสานผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศในการแจ้งเข้ารับวัคซีน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวจะจัดฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีโอกาสเกิดการระบาดเช่นในโรงงานขนาดใหญ่ ตลาดใหญ่ เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้น
แหล่งข้อมูล : CH3ThailandNews