จ.สุราษฎร์ธานี – เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่สภ.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประสิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ชัยโชค สระทองโน ผกก.สภ.เวียงสระ
ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องติดตามคดีคนร้ายฆ่ารัดคอ น.ส.อรอุมา สกุณา อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่นิติกร ศาลจังหวัดเวียงสระ อยู่บ้านเลขที่ 121/622 หมู่ที่ 21 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ตายคาห้องเช่า โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 เม.ย. พ.ต.ท.ภานุพัฒน์ วัฒโน สารวัตร (สอบสวน)สภ.เวียงสระ รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ภายในห้องเช่าเลขที่ 238/21 หมู่ที่ ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชเวียงสระ และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน8
ที่เกิดเหตุผู้ตายอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าลักษณะลิ้นจุกปาก โดยมีผ้าขนหนูสีฟ้าผูกรัดคอผู้ตาย ปลายผ้าอีกด้านหนึ่งผูกกับที่พักแขนซ้ายของเก้าอี้ภายในห้องเช่าที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นภายในห้อง ไม่มีร่องรอยการรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บวัตถุพยาน ก่อนส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.สุราษฎร์ธานี
จากการสอบสวนทราบว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ พบศพ น.ส.อรอุมา เหมือนผูกคอตาย แต่สภาพมีพิรุธนอนคว่ำหน้าลักษณะลิ้นจุกปาก มีผ้าขนหนูสีฟ้าผูกรัดคอ ส่วนปลายผ้าผูกกับที่พักแขนเก้าอี้ในโถ่งห้องเช่า ตรวจตามร่างกายไม่มีบาดแผล มีรอยช้ำที่ลำคอ ที่แขน และที่กระดูกอุ้งเชิงกราน (ท้องน้อย)
ต่อมา ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบคลิปซองใส่อาวุธปืนพกสั้นซิกซาว์เออร์ รุ่นพี 365 ตกอยู่ในห้องนอนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นอาวุธปืนโครงการสวัสดิการตำรวจ ส่วนอาวุธปืนไม่พบอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาวุธปืนเป็นของผู้เสียชีวิตหรือไม่ และหายไปไหน นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 และนาฬิกาแอปเปิ้ลสมาร์ทวอชท์ได้หายไปด้วย
จากการสอบสวนปากคำพยานได้เบาะแสว่า ห้องเช่าดังกล่าวผู้เสียชีวิตพักอยู่คนเดียว คืนวันที่ 21 เม.ย. ช่วงเวลา 21.00-22.00 น. มีผู้ชายเดินทางมาหาผู้เสียชีวิตแล้วออกไป คาดว่าเกิดเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจตั้งปมเรื่องการทำงานและชู้สาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตหน้าตาดีและมีผู้ชายติดพันหลายคน
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า หลายสิ่งที่พบบ่งชี้ว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้เสียชีวิตเอง น่าจะมีผู้ทำให้เสียชีวิต ต้องรอผลพิสูจน์จากแพทย์ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร ก่อนดำเนินการต่อไป