“คลองสุเอซ” เส้นทางคมนาคมขนส่งคึกคักแห่งหนึ่งในโลก เกิดสะดุด เหตุเรือเอเวอร์กิฟเวนเกิดปัญหา ลอยขวางนานกว่า 4 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ชื่อ “เอเวอร์ กิฟเว่น” ซึ่งเกยตื้นขวางลำการสัญจรในคลองสุเอซมาตั้งแต่วันอังคาร (23 มี.ค.) ส่งผลให้เรือสินค้าลำอื่นๆ นับร้อยลำ ไม่สามารถแล่นผ่านเส้นทางดังกล่าว และเกิดความล่าช้าในการขนส่งขึ้นแล้ว
เรือบรรทุกสินค้า ขนาดใหญ่ ชื่อ เอเวอร์ กิฟเว่น (Ever Given) ที่เกิดเหตุสูญเสียการควบคุม จนเรือขวางคลองและเกยตื้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ยังคงทำให้การจราจรทางน้ำใน คลองสุเอซ ติดขัดอย่างหนักมาจนถึงขณะนี้ วันที่ 26 มี.ค. เรือสินค้านับ 100 ลำยังคงต้องรอคิวที่จะผ่านช่วงติดขัดของคลองสุเอซที่เรือยักษ์ขวางลำอยู่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเกิดเหตุโกลาหลที่คลองสุเอซ ในประเทศอียิปต์ ซึ่งเชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง มาตั้งแต่วันอังคาร (23 มี.ค.) เมื่อเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ชื่อ เอเวอร์ กิฟเว่น ของบริษัท โชเอะ คิเซ็น ไคชา (Shoei Kisen Kaisha) สัญชาติญี่ปุ่น เกิดเหตุสูญเสียการควบคุม จนเรือขวางคลองและเกยตื้น ทำให้การจราจรทางน้ำในคลองสุเอซ ติดขัดอย่างหนัก ปัญหาคือผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเคลื่อนย้ายเรือเอเวอร์ กิฟเว่น ให้พ้นการกีดขวาง อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวันหรืออาจเป็นหลายสัปดาห์
แม้ว่าขณะนี้มีการนำเรือลากจูงอย่างน้อย 8 ลำ และนำรถแบ็กโฮมาขุดดินที่ตลิ่งเพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว แต่ก็คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะนำเรือเอเวอร์ กิฟเว่น ให้หลุดออกมาได้
ผู้บริหารของบริษัท โชเอะ คิเซ็น ไคชา ซึ่งเป็นเจ้าของเรือได้ออกมากล่าวขอโทษต่อทุกฝ่ายที่ต้องได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดย แถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า ขออภัยที่ทำให้การค้าทั่วโลกหยุดชะงัก และบริษัทกำลังพยายามแก้ปัญหาโดยเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทว่าการเอาเรือลำดังกล่าวออกเป็นเรื่องที่ยากมาก
ดร.แซล เมอร์โคเกลียโน นักประวัติศาสตร์ทางทะเล จากรัฐนอร์ท แคโรไลนา มีความเห็นว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก และเรือเอเวอร์กิฟเว่น ก็เป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยแล่นผ่านคลองสุเอซ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เรือขวางคลอง อาจเป็นเพราะเรือหมดกำลังและไม่สามารถบังคับท้ายเรือได้
เรือยักษ์ดังกล่าวประสบเหตุขวางคลองสุเอซ ขณะกำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ เพื่อไปยังท่าเรือเมืองรอตเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์ หลังเดินทางมาจากจีน ลำเรือขวางคลองสุเอซในแนวทแยงท่ามกลางกระแสลมแรงและพายุใต้ฝุ่น ส่งผลให้ตอนนี้มีเรือสินค้าอื่น ๆ อย่างน้อย 150 ลำ ต้องชะงักรอผ่านเส้นทางเดินเรือสำคัญแห่งนี้ ณ จุดที่เรือยักษ์ขวางอยู่
สื่อรายงานว่า เรือสินค้าเอเวอร์ กิฟเว่น ถูกสร้างขึ้นในปี 2561 มีความยาว 400 ม. และน้ำหนัก 200,000 ตัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวอุตสาหกรรมเดินเรือว่า ถึงแม้ว่าเรือเอเวอร์ กิฟเว่น จะกลับมาลอยลำอีกครั้งและไม่ได้กีดขวางคลองสุเอซแล้ว แต่ทั้งเจ้าของเรือและบริษัทผู้รับประกันเรือ จะต้องถูกเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับความล่าช้าและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นกับบริษัทต่างๆ ที่ฝากสินค้ากับตู้คอนเทนเนอร์บนเรือลำดังกล่าว
ทางด้านนายโทชิอากิ ฟูจิวาระ เจ้าหน้าที่ของบริษัทโชเอะ คิเซ็น ไคชา ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ เปิดแผยว่า เรือเอเวอร์ กิฟเว่น มีกรมธรรม์ประกันภัย แต่ไม่ทราบรายละเอียดหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนนี้
หลังเกิดเหตุเรือยักษ์ขวางคลองครั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกทะยานขึ้นกว่า 6% ในวันพุธที่ 24 มี.ค. แม้ว่าราคาจะลดลงเล็กน้อยในวันถัดมา (25 มี.ค.)
บริษัท เอเวอร์กรีน มารีน (Evergreen Marine) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสัญชาติไต้หวันที่บริหารการเดินเรือเอเวอร์ กิฟเว่น ระบุว่า เรืออาจถูกลมแรงพัดกะทันหัน จนตัวเรือเบี่ยงออกจากร่องน้ำ ขณะที่บริษัทโชเอะ คิเซ็น ไคชา ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ เปิดเผยว่า ลูกเรือ 25 นายของเรือเอเวอร์ กิฟเว่น ซึ่งเป็นชาวอินเดียทั้งหมดปลอดภัยดี และไม่พบน้ำมันรั่วไหลแต่อย่างใด
เรือยักษ์ขวางลำคลองสุเอซ สะเทือนการค้าโลก