อุทัยธานี – ครอบครัว “เสวกจันทร์” หลั่งน้ำตาโผกอดชายชาวสุราษฎร์ธานีทันที หลังหายจากบ้านนาน 28 ปี ก่อนพบเป็นคนเร่ร่อนอยู่ปั๊มร้างเมืองอุทัย
วันนี้ (19 ก.พ. 64) นางนันท์ เขตบุญโสภิตา ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี และเทศบาลเมืองอุทัยธานี ร่วมส่งตัวนายสว่าง เสวกจันทร์ อายุ 53 ปี ชาว อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี กลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัว ท่ามกลางความยินดีของญาติซึ่งเดินทางมารับที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ร้าง อ.เมืองอุทัยธานี
การส่งมอบตัวนายสว่างคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็นชายเร่ร่อนอายุประมาณ 50 ปี ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ปลูกเพิงพักอาศัยอยู่ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ร้าง อ.เมืองอุทัยธานี มากว่า 10 ปี
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบทราบชื่อชายเร่ร่อนรายดังกล่าว คือ นายสว่าง เสวกจันทร์ อายุ 53 ปี มีที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 106 หมู่ 2 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี สภาพร่างกายแข็งแรง แต่นอกจากแจ้งชื่อ-สกุลต่อเจ้าหน้าที่แล้วก็ไม่ยอมพูดจาให้ข้อมูลใดๆ อีก
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบข้อมูลมารดาชื่อ นางบุญเนือง เสวกจันทร์ อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 2 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี จึงประสานผ่านศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนทำให้ทราบข้อมูลว่านายสว่างได้หายออกจากบ้านที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาเป็นเวลา 28 ปีแล้ว ซึ่งมารดาและญาติพี่น้องได้พยายามติดตามหาตัวมาตลอดเนื่องจากเป็นห่วงในชีวิตความเป็นอยู่แต่ไม่พบ
เมื่อญาติได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่พบตัวนายสว่างที่จังหวัดอุทัยธานี ต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมรีบติดต่อศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานี ก่อนเดินทางมารับตัวนายสว่างกลับบ้านเดิมที่สุราษฎร์ธานี โดยเมื่อครอบครัวได้เจอตัวนายสว่างก็พากันเข้าโผกอดทั้งน้ำตาด้วยความดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง
「 ดูข่าวต้นฉบับ 」
28 ปีที่รอคอย! ญาติโผกอดรับชายเร่ร่อนหายจากบ้านเกิดเกือบ 3 ทศวรรษกลับสุราษฎร์ฯ แล้ว