เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทำงานทุกฝ่าย และได้รับฟังการบรรยายสรุปจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครยังไม่หายป่วย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความพร้อมและสามารถจัดการได้
โดยมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งการดูแลผู้ป่วยที่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่อยู่ โรงพยาบาลสนาม สำหรับกักตัวโควิด-19 (Factory Quarantine) ในโรงงานต่างๆ ซึ่งสามารถควบคุมได้ ยอมรับว่าการควบคุมในพื้นที่สมุทรสาครนั้นทำได้ดี เพราะมีประสิทธิภาพในการตรวจ ไปอย่างทั่วถึงและเมื่อพบโควิด ก็สามารถควบคุมได้ เพราะเราได้ปิดกันจังหวัดสมุทรสาครแล้ว ยิ่งตรวจเจอก็สามารถทำให้เขาหยุดการเดินทางได้ ทำให้โอกาสการแพร่เชื้อไปที่คนอื่นๆ น้อยลงไปด้วย
เมื่อถามว่า มีความกังวล เรื่องการฉีดวัคซีนจะไม่ปลอดภัยหลังการฉีดที่ประเทศนอร์เวย์และประเทศจีน นายอนุทิน กล่าวว่า ข้อมูลทุกวันนี้ได้มาจากสื่อต่างชาติ ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานของรัฐใดๆ การใช้วัคซีนและมีปัญหาว่าจะเกิดอันตรายหรือไม่ หรือควรที่จะต้องยกเลิกการใช้หรือไม่ในส่วนของประเทศไทยการจัดวัคซีนและฉีดให้พี่น้องประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลพี่น้องประชาชนอยู่แล้วและต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยในภาพรวม ซึ่งต้องยอมรับว่า หากฉีดวัคซีนให้คนเป็นล้านคนต้องพบคนมีอาการแพ้บ้างและเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ ทั้งนี้ สธ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาบริหารจัดการเรื่องวัคซีน ว่าใครเป็นกลุ่มเสี่ยงและได้รับการฉีดก่อนหรือกลุ่มไหนเป็นกลุ่มเฝ้าระวัง ซึ่งได้เริ่มฏิบัติงานแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมาและหากมีอะไรก็จะให้คณะกรรมการชุดนี้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ พวกเราพร้อมสนับสนุนโดยคำนึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
เมื่อถามว่าในประเทศไทยต้องมีกลุ่มตัวอย่างทดลองวัคซีนกลุ่มแรกก่อนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาขึ้นทะเบียนยา ทะเบียนวัคซีน ต้องใช้ผลการทดลองของประเทศผู้ผลิตมาเป็นองค์ประกอบ เราไม่ทำอะไรที่มันแปลกแยก เพราะจะมีประเด็นอื่นแทรกเข้ามา เพราะทุกอย่างต้องทำด้วยกัน และเวลาก็สำคัญ เพราะหากจะต้องรอปลอดภัย 100% ไม่มีอาการแพ้ไม่มีอาการข้างเคียงเลย กลัวว่าเราจะไม่ได้วัคซีนกัน เราต้องยึดถึงหลักทางการแพทย์และองค์การอนามัยโลกยอมรับ เรามีทั้งคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อ มีทั้งแพทย์ทยสภาที่จะต้องระดมกำลังกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน
“เรื่องวัคซีนไม่ต้องกังวล สธ. มี อย. ร่วมกับกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะต้องทำการตรวจสอบเอกสาร แต่ละยี่ห้อส่งเข้ามาเป็นหมื่นๆ หน้า กว่าจะตรวจสอบและอนุมัติได้ ต้องใช้เวลาและการพิสูจน์เยอะแยะไปหมด ซึ่งถือว่ามีมาตรฐานการพิสูจน์อยู่แล้วและการอนุมัติการใช้วัคซีน เพื่อแก้โควิด-19 ใช้ในมาตรฐานของมาตรการฉุกเฉิน ไม่ได้ใช้เชิงพาณิชย์ ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนยังไม่สามารถสั่งเข้ามาได้ เพราะในการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินรัฐบาลต้องเป็นผู้กำหนดอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อนหรือไม่ว่าจะเป็นผู้ทดสอบฉีดวัคซีนก่อน นายอนุทินกล่าวว่า ประเด็นนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เอาเรื่องของความปลอดภัยเป็นที่ตั้งและเวลาที่เราจะได้วัคซีนมาเป็นที่ตั้ง เพราะนโยบายของเราต้องฉีดให้กับประชาชนทั่วไป แต่เราไปบังคับเขาไม่ได้ ซึ่งเราก็ต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สุดให้ประชาชนได้พิจรณา เราก็จะจัดระดับความสำคัญในการฉีด และต้องใช้เวลา ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ และในประมาณเดือนมิถุนายน วัคซีนที่เราซื้อไปเริ่มให้บริการครอบคลุมกับจำนวนคนส่วนใหญ่ของประเทศได้
เมื่อถามว่า นายกฯได้สอบถามถึงปัญาหาของแอพพลิเคชั่นหมอชนะ หลังทีมพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าวลาออกยกทีมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีก็พูดถึง แต่ในส่วนของ สธ.ไม่ได้มีปัญหา และขอย้ำว่าการที่โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันโควิด อย่ากลัวว่าภาครัฐจะนำข้อมูลของท่านไปใช้ในทางเสียหาย แต่ในทางกลับกัน สธ.สามารถมีข้อมูลในการติดตามหากติดโรคร่วมถึงการรักษาต่างๆจะสะดวกและทำให้ง่ายขึ้น เพราะว่าจะได้ทราบข้อมูลเรื่องของสุขภาพในแต่ละคนและลดเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่
「 บทความต้นฉบับ 」
อนุทิน ชี้ ฉีดวัคซีนล้านคน แพ้บ้างเรื่องปกติ ขอปชช.อย่ากังวล