จากกรณีที่มีการพบร่างของนางสาว ละลิตา เทินสะเกษ อายุ 19 ปี สาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 ซึ่งเสียชีวิตลักษณะเดียวกันกับผู้เสพยาเสพติดเคนมผงในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ภายในห้องเช่าของแฟนหนุ่มในย่านซอยรัชดาภิเษก 18 ล่าสุดมีความคืบหน้าในคดีนี้หลังในช่วงบ่ายของวันนี้ พลตำรวจตรี จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาประชุมเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าในคดี โดยภายหลังการประชุมได้มีการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเพียงเล็กน้อยว่าขณะนี้ยังไมใ่ได้มีการสรุปว่าคดีของ สน.สุทธิสาร จะเกี่ยวข้องกับ คดีของ สน.สายไหม หรือ สน.วัดพระยาไกร เพราะยังต้องรอหลักฐานจากการชันสูตรร่างผู้ตาย แต่การทำงานขณะนี้ได้มีการแบ่งการทำงานออกเป็น สองส่วน คือคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่สน. วัดพระยาไกรและเหตุที่ต่อเนื่องกัน และอีกส่วนคือในพื้นที่สน. สายไหมต่อเนื่องเข้าเขตปทุมธานี
ความคืบหน้าล่าสุดมีรายงานว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นแชทของผู้ตาย ที่มีการสั่งซื้อยาเสพติดจากผู้ค้ารายหนึ่ง โดยในรายละเอียดเป็นการสั่งซื้อยาเค แต่ผู้ค้ามีการส่งยาตัวใหม่ ที่เรียกชื่อว่า ทะเลทราย (เหมือนเคนมผงแต่มีฤทธิ์แรงกว่า) ซึ่งผู้ค้ายังได้บอกวิธีใช้ให้กับผู้ตายด้วยว่า ตัวยาทะเลทราย นี้มีลักษณะเป็นเม็ด ต้องนำมาบดก่อนจะดม พร้อมกำชับผู้ตายว่าใช้แทนยาเค แต่อย่าดมเยอะ เพราะแรงกว่ายาเคนมผง ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าวขึ้น
ขณะนี้ในส่วนของตัวผู้ค้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร สามารถระบุตัวตนได้แล้วเนื่องจากมีหลักฐานการแชทและการโอนเงินอย่างชัดเจน เหลือเพียงพิสูจน์ในรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมรอผลชันสูตรศพ ซึ่งคาดว่าจะมีการนำหลักฐานมาประกอบการขออนุมัติหมายจับ ผู้ค้ารายนี้ อีกครั้ง
สำหรับไทมไลน์ของ นางสาว ละลิตา สาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 รายนี้ ตำรวจพบข้อมูลว่า ผู้ตายได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน เวลา 01.00 น. ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม ที่ย่านพระราม 3 ก่อนจะมีการสั่งซื้อยาเค จากผู้ค้ารายนี้ เวลา 2 นาฬิกา ผ่านช่องทางแชทของแอพโซลเชียลมีเดียชื่อดัง โดยมีการตกลงกันในราคา กรัมละ 700 บาท ก่อนที่ในเวลาต่อมาเวลาเกือบ 3 นาฬิกา ผู้ตายได้ส่งข้อความกลับไปต่อว่าผู้ค้าว่า ยาที่ได้มาไม่ใช่ยาเคตามที่สั่ง ซึ่งผู้ค้ารายนี้จึงได้อธิบายว่า ยาที่จัดส่งไปให้ คือทะเลทราย ยาสูตรใหม่ที่เหมือนเค นมผง แต่กำชับให้ผู้ตายอย่าใช้เยอะเพราะ ทะเลทราย แรงกว่าเคนมผง ก่อนที่ในเวลาต่อมาประมาณ 3 นาฬิกา ผู้ตายจะส่งข้อความกลับไปหา ผู้ค้าว่า หลังจากใช้ยาที่ซื้อมาไปไม่นานนัก มีอาการอ้วก และเพื่อนที่ร่วมใช้ยาด้วยกัน มีอาการช็อก น้ำลายออกปาก กำลังจะพาไปโรงพยาบาล
ก่อนที่ในช่วงเช้าของวันที่ 10 มกราคม ประมาณ 7 นาฬิกา ผู้ตายได้เดินทางกลับมาที่ห้องเช่าของแฟนหนุ่มด้วยอากามึนเมา และขอนอนพักไป ต่อมาเวลา 15.00 แฟนสาวได้ลุกขึ้นมาพูดคุยและขอดื่มน้ำไปเล็กน้อย ก่อนที่เวลาต่อมาประมาณ 1 นาฬิกา ของเช้าวันที่ 11 มกราคม ได้มีเพื่อนของผู้ตายโทรเข้ามาหาผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ตื่น แฟนหนุ่มจึงรับสายโดยเพื่อนที่โทรมามีการสอบถามว่า ผู้ตายมีอาการอย่างไรบ้าง เมามากหรือไม่ ก่อนจะวางสายไป แฟนหนุ่มของผู้ตายจึงตัดสินใจปลุก จึงพบว่าแฟนสาวเสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่การสอบปากคำนายโม แฟนหนุ่มของ สาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 พบว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอยู่ก่อนหน้า ซึ่งตนเองได้เคยเตือนไปแล้วว่าอย่าเสพยาชนิดนี้เพราะเมื่อช่วงต้นปีเคยได้ลองโดยการแตะลิ้น และตนเองมีอาการหายใจไม่ออก และรู้สึกทรมานอย่างมาก จึงเชื่อว่ายาสูตรนี้มีความอันตราย จึงได้เคยเตือนแฟนสาวไป แต่แฟนสาวไม่เชื่อจนมาเกิดเหตุดังกล่าว
「 บทความต้นฉบับ 」
ตร.พบข้อมูล สูตรยานรกใหม่ “ทะเลทราย” แรงกว่า “เคนมผง”