เที่ยวสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราชกันค่ะ เราเดินทางโดยรถยนต์ขับจากกรุงเทพไปทุ่งสงใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง พักเที่ยวที่ทุ่งสงและไปต่อที่ขนอม แต่ทริปที่ประทับใจที่สุดคือที่สิชล เราเช่าที่พักที่ขนอมแล้วขับรถจากขนอมมาสิชลใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึง
เราออกกันมาตั้งแต่เช้าเพื่อจะมาเที่ยวตลาดเช้า (หากอยากเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านจริงๆเค้าว่ากันว่าต้องไปเดินตลาด) เราเลือกที่จะไปที่ตลาดบ้านปลายทอน จุดเด่นของตลาดที่นี้คือของทะเลสดๆ รับประกันความสด ตอนที่ไปถึง 7.30 น. เห็นถาดของแม่ค้าว่างเปล่าคิดว่าแย่แล้วสงสัยจะมาสายเกินไป เลยเดินไปถามว่าตลาดเปิดตั้งแต่กี่โมง จึงได้คำตอบว่าที่ถาดวางเปล่าเพราะเรือยังไม่เข้า เลยยังไม่มีของทะเลขาย เรือจะเริ่มทยอยเข้าประมาณ 8 โมง ได้ยินดังนั้นดีใจมากนึกว่าจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว
เรารอต่อไปไม่นานก็เริ่มมีเรือหางยาวของชาวบ้านเข้า พอเรือเข้ามาแม่ค้าและคนที่รอซื้อก็เดินกรูกันไปที่เรือ เพื่อเลือกซื้อของที่ชาวประมงจับมาได้ เรือลำแรกไม่มีของมากนัก มีแค่ปูไม่กี่ตัว และปลาจำนวนหนึ่ง เรารอเรือลำต่อๆไป ก็เริ่มมีทยอยเข้ามาเรื่อยๆ วันนี้ปลาส่วนใหญ่ที่ชาวประมงจับมาได้เป็นปลาลัง
พอเรือเทียบท่าเสร็จก็จะขนมาขายกันที่ตลาด เลือกซื้อเลือกหากันได้เลย สดทุกตัว ของทะเลส่วนใหญ่จะเป็นปลาตัวไม่ใหญ่มาก เพราะเป็นเรือขนาดเล็กไม่สามารถออกไปไกลมากนัก แต่สิ่งที่ได้เห็นคือวิถีชาวบ้านที่น่ารักและหาดูได้ยากแล้ว
หลังจากรอดูเรือของชาวประมงจนหนำใจ เราก็เริ่มเดินหาของทาน ไปเจอเข้ากับคุณป้าขายปลาไหล เกิดอาการอยากกิน แต่เป็นปลาไหลสด เลยถามคุณป้าว่าหากซื้อปลาไหลแล้ว จะหาร้านที่ไหนทำเป็นอาหารให้ทานได้บ้าง คุณป้าใจดีมาก บอกว่าเดี๋ยวป้าทำให้เอง ให้เราซื้อเครื่องแกง 20 บาท แล้วตามป้าไปที่บ้าน เราไม่รอช้ารีบซื้อปลาไหลและเครื่องแกง แล้วให้แฟนตามคุณป้าไป
ไปถึงที่บ้าน คุณป้าก็จัดแจงหั่นปลาไหลและผัดเผ็ดให้ รสชาติเผ็ดร้อนและจัดจ้านมาก ขอบคุณคุณป้ามากๆค่ะ
ในตลาดมีร้านของคุณยายขายขนมครกร้านหนึ่งที่สะดุดตามาก เป็นคุณยายนั่งทำขนมครกในเพิงเก่าๆ โดยใช้ไม้ฟืนในการทำ และขนมครกยังเป็นแบบโบราณขนานแท้ที่หาทานแทบไม่ได้แล้ว ขนมครกของคุณยายจะเป็นแบบไม่หวานเลย โดยหยอดแป้งผสมกะทิในชั้นแรก และหยอดหัวกะทิข้นๆด้านบน พอขนมสุกก็แคะออก
เสริฟมาพร้อมกับน้ำตาลทรายในถุงเล็ก หากใครชอบหวานก็จิ้มคู่กับน้ำตาล คุณยายบอกว่าขายมากว่า 30 ปีแล้ว เป็นรสชาติที่คิดถึงมาก
ในตลาดบ้านปลายทอนเราจะให้เห็นวิถีชิวิตชาวประมง การซื้อขายของทะเลแบบเป็นกันเอง ราคาไม่แพง รวมถึงอาหารทั้งคาวหวานแบบโบราณ ผลไม้ราคาถูกมากเพราะส่วนใหญ่มาจากสวนของชาวบ้าน และที่ขาดไม่ได้คือ ความน่ารักและความมีน้ำใจของคนที่นั้น สิ่งที่ประทับใจเรามากที่สุดคือการต้อนรับที่เป็นมิตร ความมีน้ำใจที่ทำให้เรารู้ว่ายังคงมีอีกมากมายในบ้านเรา
หลังจากเสร็จสิ้นที่ตลาด เราก็ออกหาอาหารเที่ยงทาน แต่ก่อนจะเจอร้านอาหารเราไปเจอกับชาวบ้านที่กำลังเก็บมะพร้าว โดยการใช้ลิงในการเก็บ เรารีบจอดรถลงไปดู
ลิงค่อนข้างเป็นมิตร ไม่ดุ และที่สำคัญพี่คนที่เลี้ยง เลี้ยงดูลิงเป็นอย่างดี มีพักให้อาหารและน้ำดื่มตลอดเวลา พี่เค้าบอกว่าลิงกว่าจะสอนให้เก็บมะพร้าวได้ต้องส่งไปฝึกเป็นเวลา 2 ปี ก่อนกลับออกมาพี่เค้าให้มะพร้าวน้ำหอมไว้ทานด้วย2 ลูก
ขับออกมาจากตลาดไม่ไกลเจอร้านอาหารตามสั่งติดริมทะเล เลยตัดสินใจเลี้ยวหัวทานกันที่นี้
อาหารรสชาติธรรมดา แต่ที่ประทับใจคือ บรรยากาศและความเป็นมิตรของคุณป้าที่ร้าน คุณป้ามานั่งคุยอย่างเป็นกันเองเหมือนเป็นลูกหลาน แล้วทำอาหารจานพิเศษมาให้ทานด้วยโดยไม่คิดเงิน
หอยเสียบผัดน้ำมันหอย อร่อยมาก ตัวหอยตัวเล็กๆเนื้อน้อยๆ แต่เค็มๆหวานๆ อร่อยมาก
เรานั่งดื่มด่ำบรรยากาศจนบ่ายแก่ๆก็เดินทางกลับขนอม เราใช้เวลาไม่นานนักที่สิชลแต่ความประทับใจที่ได้รับมาเต็มอิ่มจริงๆ หากเพื่อนๆกำลังมองหาที่เที่ยว ที่เงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตร สิชล นครศรีธรรมราช เป็นอีกที่ที่เราอยากแนะนำค่ะ
ขอบคุณ – pantip