วัดร่อนนา หมู่ 2 ตำบลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดร่อนนาเป็นวัดโบราณอีกวัดหนึ่งในยุคกรุงศรีอยุธยาเพราะยังคงเหลือสิ่งปลักหักพังปัจจุบัน ประมาณว่า วัดร่อนนาเคยเป็นวัดเจริญรุ่งเรืองมาแล้วในอดีตด้วยหลักฐานพอที่จะยืนยัน ได้ก็คือ พระพุทธรูปอุ้มบาตร เป็นพระที่จัดได้ว่าสวยงามมาก
ซึ่งพระพุทธรูปปางพระร่วงองค์เป็นที่สักการบูชากราบไหว้ของชาวร่อนพิบูลย์และชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง
ประวัติการสร้างพระพุทธรูปปางพระร่วงอุ้มบาตรจากประวัติที่เล่าสืบต่อกันมาของพระแม่เศรษฐีวัดร่อนนาพระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอร่อนพิบูลย์ นับย้อนรอยไป 700-800 ปีมาแล้วเป็นยุคการเผยแพร่ของพระพุทธศาสนาและมหาสงครามของประเทศเพื่อนบ้าน และยุคมหาสงครามไทยสยามใต้กับพวกชวากะ (สลัดชวา)
โจรแขกที่บุกเข้าโจมตีจับเอาทรัพย์สินและชาวเมืองไปเป็นเชลยต่างผลัดกับรบชนะและแพ้สลับกันไปราษฎรต้องพากันอพยพหลบหนีภัยสงครามที่ยกโจมตีบรรดาเมืองต่าง ๆ แตกพร้อมกับต้อนชาวเมืองเป็นเชลยศึก ส่วนที่พากันหลบหนีเข้าไปในป่าพากันส้องสุมรวมตัวต่อสู้ศัตรูในการดักซุ้มโจรตีทำลายข้าศึกบ้างก็พาลูกเมียข้าทาสบริวารหลบหนีภัยสงครามไปตั้งรากฐานแปลงบ้านสร้างเมืองอยู่บนภูเขาร่อนนา (หรือในพื้นที่กรุงมาศ)
ปัจจุบันเป็นที่กั้นน้ำทำนบสองของเมืองแร่หนองเป็ดซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ในปัจจุบัน เมื่อท่านเศรษฐีกรุงมาสได้สร้างบ้านเรือนขึ้นมาก็ได้มีชาวบ้านที่หนีภัยสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนั้นมาตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ขึ้น
ครั้นหลายปีต่อมาท่านเศรษฐีแห่งหมู่บ้านกรุงมาสก็ได้ทายาทบุตรีคนหนึ่งจากภรรยาคนหนึ่งและเมื่อกุมารีเจริญวัยเติบโตขึ้นก็มีผิวพรรณนั้นเหมือนทองคำท่านเศรษฐีกรุงมาสผู้เป็นบิดาและมารดาตลอดจนข้าทาสบริวารต่างรักใคร่
ท่านเศรษฐีกรุงมาสผู้เป็นพ่อและแม่ต่าง ทะนุถนอมเลี้ยงดูบุตรีดังแก้วตาดวงใจจนกุมารีเจริญวัยได้ 16 ปีวันหนึ่งได้ชวนพี่เลี้ยงไปเล่นน้ำที่โตน (คือฐานน้ำตกบนภูเขา) และในขณะที่บุตรีท่านเศรษฐีกรุงมาสกับพี่เลี้ยงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อบุตรีท่านเศรษฐีกรุงมาสกับพี่เลี่ยงได้ลื่นหลักตกลงจากหน้าผาน้ำตก
ปรากฏว่าสาวเจ้าทั้งสองหายสาบสูญไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราดและเมื่อถึงเวลาตะวันใกล้ค่ำท่านเศรษฐีกรุงมาสผู้เป็นพ่อพร้อมภรรยาไม่เห็นหน้าบุตรีและพี่เลี้ยงบังเกิดความเป็นห่วงและสังหรณ์ใจเลยนำบ่าวไพร่ออกติดตามค้นหาและพบเสื้อผ้าเครื่องประดับแต่งกายของบุตรและพี่เลี้ยงกองอยู่บริเวณนั้น
ท่านเศรษฐีกรุงมาสผู้เป็นพ่อและภรรยาต่างโศกเศร้าเสียใจและสลดไปในการจากไปของบุตรสาวเป็นอย่างมากและคิดว่าศพของบุตรสาวและพี่เลี้ยงคงถูกกระแสน้ำพัดจนอยู่ในโตน (วังน้ำตก) นี้เป็นแน่ท่านเศรษฐีกรุงมาสจึงตั้งรางวัลด้วยทองคำแท่งหลายร้อยชั่งใครก็ตามสามารถงมศพของบุตรสาวและศพพี่เลี้ยงเจอจะมอบทองคำแท่งให้เป็นรางวัล
ซึ่งมีชาวบ้านและข้าทาสบริวารต่างพากันงมศพค้นหาจนแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่มีใครพบศพบุตรสาวของท่านเศรษฐีและพี่เลี้ยงเลยยังมีความโศกเศร้าเสียใจแก่ท่านเศรษฐีกรุงมาสผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่ตลอดจนข้าทาสบริวารยิ่งนักท่านเศรษฐีกรุงมาศผู้เป็นพ่อจึงคิดปั้นรูปต่างตัวของบุตรสาวและพี่เลี้ยง จึงได้ประกาศให้บรรดาผู้ที่มีความสามารถปั้นรูปเหมือนของบุตรีและพี่เลี้ยง
แต่ปรากฏว่าบรรดาช่างจากสถานที่ต่าง ๆ ทราบข่าวต่างพากันเดินทางสมัครปั้นรูปเหมือนบุตรี จะปั้นให้เหมือนรูปบุตรีและพี่เลี้ยงได้ คือปั้นแล้วปรากฏไม่เหมือนกันเลยเพราะช่างเหล่านั้นขาดความชำนานทางศิลป์
เลยพากันปั้นไม่ได้เรื่องได้ราวเรื่องของเรื่องเลยถึงองค์อัมรินทร์จอมเทพสรวงสรรค์ (พระอินทร์) ทรงตรัสเรียกพระวิษณุกรรมและได้มอบหมายหน้าที่ในการสร้างพระรูปเหมือนในการปั้นรูปเหมือนบุตรีและพี่เลี้ยงตามเจตนารมณ์ของท่านเศรษฐีกรงมาสได้ทำการอธิษฐานมา
ซึ่งพระวิษณุกรรมเมื่อรับบัญชาจากพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์แล้วได้แปลงกายเป็นพราหมณ์เฒ่าเข้าไปรับอาสาท่านเศรษฐีกรงมาสสร้างรูปเหมือนบุตรสาวและพี่เลี้ยงให้โดยพราหมณ์เฒ่าได้ทำเบ้าหล่อรูปเหมือนแล้วเคี่ยวหลอมละลายทรัพย์สินเหล่านั้นเทลงในเบ้าและ
เมื่อแกะเบ้าออกมาปรากฏว่าเป็นพระพุทธรูปสวยงามมากเป็นที่สบอารมณ์ชื่นชนของท่านเศรษฐีกรงมาสผู้เป็นพ่อมาตลอดจนข้าทาสบริวารเป็นยิ่งนักที่รูปหล่อของบุตรีซึ่งดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ฝ่ายพราหมณ์เฒ่าเมื่อหล่อรูปเหมือนบุตรีและพี่เลี้ยงเสร็จและก็หายตัวไปเฉย ๆ ฝ่ายท่านเศรษฐีกรงมาสกับภรรยา
เมื่อหล่อรูปเหมือนบุตรสาวกับพี่เลี้ยงคล้ายทองคำสวยไม่มีที่ติแล้วท่านเศรษฐีกรุงมาสผู้เป็นบิดากับภรรยาผู้เป็นมารดาได้นำพระพุทธองค์นั้นไปที่วังน้ำโตนที่บุตรีกับพี่เลี้ยงเสียชีวิตพร้อมกับพากันอธิษฐานว่าถ้าหากว่าบุตรสาวที่เสียชีวิตพร้อมกับพี่เลี้ยงได้ไปเกิด (จุติ) ที่แห่งหนตำบลใดก็ขอพระพุทธรูปองค์นี้ได้ไปอยู่ที่นั้นแล้วท่านเศรษฐีกรุงมาสกับภรรยาได้ทิ้งพระพุทธรูปทั้งองค์ลงในวังน้ำตกโตนแห่งนั้นและต่อมาปรากฏว่าพระพุทธรูปองค์นั้นได้มาผุดที่วัดคีรีวงศ์ (หนองตะเคียง)
วัดร่อนนาปัจจุบันจนกระทั่งได้มีเด็กเลี้ยงควายได้นำควายไปเลี้ยงและเอาเชือกไปล่ามไว้กับเกศของพระพุทธรูปซึ่งเข้าใจว่าเป็นตอไม้และตกกลางคืนเด็กคนนั้นเกิดเจ็บท้องและได้ฝันว่าที่ตนเอาเชือกไปล่ามควายนั้นไม่ใช่ตอไม้แต่เป็นเกศของพระจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่ตนฝันพร้อมกับปวดท้องให้พ่อแม่ฟัง
รุ่งเช้าพ่อแม่พร้อมด้วยชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นได้พาไปสู่ทุ่งร้างที่เด็กเลี้ยงควายนำเชือกควายไปผูกกับเกศพระ ซึ่งพ่อแม่เด็กและชาวบ้านพากันขุดพบเกศพระและลึกลงไปพบองค์พระแต่ไม่สามารถขุดเอาพระพุทธรูปขึ้นมาได้และจู่ ๆ
ที่ชาวบ้านที่กำลังขุดพระพุทธรูปอยู่นั้นเด็กเลี้ยงควายก็สั่นขึ้นพร้อมกับมีเสียงพูดเป็นเสียงผู้ใหญ่ว่าถ้าต้องการนิมนต์พระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานไว้เป็นที่สักการบูชานั้น ให้จัดพิธีพราหมณ์ ทำพิธีกรรมอัญเชิญพระสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์โดยชาวบ้านได้ช่วยกันจับด้าย 7 สี ดึงเบา ๆ พระพุทธรูปองค์นั้นก็เคลื่อนขึ้นมาจากพื้นดินอย่างอัศจรรย์ท่านกลางพระสงฆ์สวดพุทธมนต์
กล่าวว่านับเป็นเหตุมหัศจรรย์ท้องฟ้าเดือน 5 เปลวแดดร้อนจ้า กลับปรากฏการณ์ที่พื้นดินแห้งแล้งมาช่อง 2 เดือน ท้องฟ้ามืดครึ้มลงแล้วฝนตกลงมา เมื่อองค์พระพ้นพื้นดินฝนได้ชำระล้างดินที่องค์พระพุทธรูปจนสะอาดแล้ว
จึงหยุดแสงแดดจ้าอันเป็นน่านมหัศจรรย์ยิ่งนัก ชาวบ้านได้พากันปิดทองกราบไหว้ และพราหมณ์ได้ทำพิธีอัญเชิญนิมนต์พระแม่เศรษฐีตามร่างทรงได้บอกเล่าความเป็นมาของพระพุทธรูปองค์นี้ในพิธีซึ่งพระแม่เศรษฐีท่านได้รับนิมนต์ชาวบ้านที่นิมนต์ท่านให้มาเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน ณ วัดร่อนนา ตลอดจนกระทั่งทุกวันนี้
พระแม่เศรษฐีวัดร่อนนาจึงเป็นพระที่พึ่งของชาวอำเภอร่อนพิบูลย์และชาวนครศรีธรรมราชตลอดมา แต่ละวันจะมีประชากรทั้งใกล้และไกลเดินทางมากราบไหว้บนบานต่อพระแม่เศรษฐีซึ่งจะสำเร็จไป ทุกวันเมื่อประสบความสำเร็จที่บนบานเอาไว้
ชาวบ้านผู้ที่บนบานจะนำดอกไม้ธูปเทียนปิดทองคำเปลวและจุดลูกประทัดแก้บนจนเสียงดังกระนั่นจนเป็นกิจประจำวันไปเสียแล้วด้วย พระแม่เศรษฐีวัดร่อนนาท่านเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองเป็นพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อมีงานประเพณีที่เล่ามาก็พอได้ประวัติย่อ ๆ ของท่านพอสังเขป ส่วนอภินิหารของท่านนั้นชาวร่อนพิบูลย์รู้ดีครับ
แจงเป็นธรรมทานโดย คุณแม่สวาท อภิวันท์งบกช (ยายตา)
ชักพระวัดร่อนนา
ชักพระวัดร่อนนา
ชักพระวัดร่อนนา (พระแม่เศรษฐี) อ.ร่อนพิบูลย์ เรือพระที่ไม่มีล้อ ลากไปด้วยความศรัทธา
ภาพ – อดิศักดิ์ เดชสถิตย์
การล้างพิษ (Detox) เป็นกระบวนการที่ช่วยกำจัดสารพิษหรือสิ่งสกปรกที่สะสมในร่างกายออกไป อาหารจัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด อาหารบางประเภทสามารถช่วยในกระบวนการนี้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ 10 อาหารที่ช่วยในการล้างพิษ: 1. มะนาว มะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษออกจากร่างกาย… อ่านเพิ่มเติม..
ข้อเข่า โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายบานพับ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย การดูแลข้อเข่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสื่อมก่อนวัย และลดปัญหาอาการปวดหรือข้ออักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารบำรุงข้อเข่าให้เสื่อมช้าลง ปลา ที่มีโอเมก้า 3 เช่น โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น… อ่านเพิ่มเติม..
• ท่านพระมหาโมคคัลลานะ พระเถระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระมหาโมคคัลลานะ มีชื่อเดิมว่า "โกลิตะ" เป็นบุตรพราหมณ์ท้ายบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์ โกลิตมาณพ เป็นเพื่อนสนิทกับอุปติสสมาณพ หรือ พระสารีบุตร… อ่านเพิ่มเติม..
พระพุทธเจ้าทรงแสดงอุบายแก้ง่วงแก่พระโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ในหมู่บ้านโกลิตคาม ได้ชื่อว่า “โกลิตะ” ตามชื่อของหมู่บ้าน มารดาชื่อโมคคัลลี คนทั่วไปจึงเรียกท่านว่า “โมคคัลลานะ” ตามชื่อของมารดา ท่านเป็นสหายที่รักกันมากับอุปติสสมาณพ (พระสารีบุตร) เที่ยวแสวงหาความสุขความสำราญ ตามประสาวัยรุ่น และพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย… อ่านเพิ่มเติม..
บทสวดมนต์ประจำวันเกิด แบบเต็มและแบบย่อทั้ง 7 วัน ตามกำลังวัน สวดก่อนนอนชีวิตราบรื่น ร่มเย็น เสริมสิริมงคล ประโยชน์ของการสวดมนต์ก็คือทำให้จิตใจเราผ่องใส และจิตใจสงบมากขึ้น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิด คือ พระพุทธรูปปางถวายเนตร บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันอาทิตย์… อ่านเพิ่มเติม..
อาการท้องผูก ท้องอืด ถึงแม้จะไม่ส่งผลอันตรายมากถึงชีวิตแต่ก็สร้างความอึดอัดไม่สบายท้อง หรืออาจลุกลามกลายเป็นโรคอันตรายในอนาคตได้ และที่สำคัญอาการเหล่านี้มักส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง! ผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร ทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ผลไม้ 9 ชนิดช่วยขับถ่าย กากใยสูง แก้อาการท้องผูกชนิดไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.มะละกอสุก เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและหาทานง่าย… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.