จ.ราชบุรี – ยิงสนั่นกลางผับเมืองโอ่ง หนุ่มชักปืนจ่อยิงอริดับ หลังมีเรื่องวิวาทในคืนวันลอยกระทง แล้วมาเจอกันในร้าน จับมือปรับความเข้าใจ แต่ความเมาทำให้ยังมีอารมณ์ค้าง เดินกลับไปหยิบปืนที่รถ ก่อนมาจ่อยิง 5 นัด ดับแค้น
เมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 4 พ.ย.63 ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ชนประเสริฐ รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในร้าน LIT ถนนสายเขางู-เบิกไพร เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.ธารา ศรีพรหมคำ รอง.ผกก.ป. พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย รองผกก.สส. พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.บ้านโป่ง และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเปิดเป็นสถานบันเทิงชั้นเดียว ด้านนอกร้านพบนักเที่ยวจับกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก ภายในร้านพบขวดเหล้า แก้ว โต๊ะ และเก้าอี้ ล้มระเนระนาด ที่พื้นกลางร้านพบร่าง นายสมชาย เจริญมี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 ถนนบ้านสวนกล้วย ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง สภาพนอนหงายเลือดนองเต็มพื้น ถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเข้าร่างพรุน 5 นัด กระสุนเข้าศีรษะ 2 นัด และลำตัว 3 นัด
เจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก และหัวกระสุนปืน 2 ชิ้น ไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายสุรศักดิ์ สุวรรณภักดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ 4 ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง โดนเจ้าหน้าที่รวบตัวได้คาร้านขณะกำลังหลบหนี พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ สภาพถูกรุมสกรัมจนศีรษะบวมอยู่ในอาการมึนเมา นำตัวส่ง รพ.บ้านโป่ง ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์
จากการสอบสวนทราบว่า นายสมชาย ผู้ตายมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน โดยมี นายสุรศักดิ์ มือปืนก็มาเที่ยวในร้านเดียวกัน นั่งอยู่โต๊ะใกล้กัน ซึ่งทั้งผู้ตายและมือปืนรู้จักกันเพราะเคยมีเรื่องบาดหมางทะเลาะวิวาทกันมา ตั้งแต่วันลอยกระทงที่ผ่านมา
ขณะกำลังปรับความเข้าใจพร้อมจับมือเลิกแล้วต่อกัน และทางร้านกำลังจะปิด จู่ๆ นายสุรศักดิ์ มือปืนเดินออกไปนอกร้าน แล้วย้อนกลับมาพร้อมอาวุธปืน จ่อยิงผู้ตาย 5 นัดซ้อน จนล้มฟุบกองลงกับพื้น ทางร้านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวมือปืน ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาไว้ได้ คาดมือปืนยังโกรธเคืองผู้ตาย และด้วยฤทธิ์สุรา จึงลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
