“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” เผย 6 ข้อที่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการขาดสมาธิในการขับรถหรือต้องละสายตาจากเส้นทาง จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลงอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
วันนี้ (1 พ.ย.) เพจ “Anti-Fake News Center Thailand” ได้นำข้อมูลจาก “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ออกมาโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการขาดสมาธิในการขับขี่รถหรือทำให้ต้องละสายตาจากเส้นทางจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยขอเตือนกิจกรรมที่ทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ ซึ่งมีทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้
1. ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือจะต้องละสายตาดูโทรศัพท์พิมพ์ข้อความ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถและการตอบสนองต่อเหตุเหตุฉุกเฉินช้าลง จึงไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ทันท่วงที หากต้องสนทนาทางโทรศัพท์ควรใช้อุปกรณ์เสริม เช่น แฮนด์ฟรี บลูทูธ แทนการพิมพ์ข้อความผ่านโปรแกรมสนทนา หรือจอดรถในที่ปลอดภัยแล้วค่อยพิมพ์ข้อความสนทนาทางโทรศัพท์ จะช่วยลดความเสี่ยง
2. ไม่ควรรับประทานอาหารขณะขับรถ เพราะทำให้ผู้ขับขี่เหลือมือจับพวงพวงมาลัยเพียงข้างเดียว ส่งผลต่อการบังคับทิศทาง และประสิทธิภาพในการขับรถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ผู้ขับรถควรรับประทานอาหารก่อนออกเดินทางหรือจอดพักรับประทานอาหารในบริเวณที่ปลอดภัย
3. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วงที่สภาพการจราจรติดขัดหรือรถจอดติดสัญญาณไฟ ส่งผลต่อสมาธิของผู้ขับขี่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
4. ไม่ควรดูโทรทัศน์ระหว่างขับรถ เพราะแสงสว่าง เสียง และภาพที่เคลื่อนไหวจะดึงดูดผู้ขับขี่ให้ละสายตาจากเส้นทาง อาจรบกวนสมาธิในการขับรถของผู้ขับขี่ ถึงแม้ผู้ขับขี่จะไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่การเปลี่ยนช่อง ปรับเพิ่มหรือลดเสียงก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
5. ไม่ควรโน้มตัวและละสายตาจากเส้นทางเพื่อค้นหาหรือก้มเก็บสิ่งของ เพราะจะทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แนะนำให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยแล้วค่อยค้นหาหรือก้มเก็บสิ่งของในรถ
6. การตั้งข้อมูลเส้นทางผ่านระบบนำทาง GPS ควรตั้งจุดหมายการเดินทาง และวางแผนเลือกใช้เส้นทางให้เรียบร้อยก่อนออกรถ เพราะหากผู้ขับขี่ละสายตาและปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัย เพื่อค้นหาและเลือกเส้นทางจากระบบนำทาง GPS ของรถหรือโทรศัพท์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้