สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง แถลงข่าวด่วนหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านจับแรงงานเมียนมา ย้ายพื้นที่ทำงานจาก จ.สงขลา จะไป จ.สุราษฎร์ธานีพบเป็นไข้สูง 1 ราย ตรวจพบซากเชื้อโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอน ตั้งด่านตรวจบนถนนสายเพชรเกษม เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมาบริเวณหน้าอำเภอป่าบอนเพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย ขณะตั้งด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ซึ่งได้ขับเข้าไปในสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอป่าบอน ซึ่งอยู่ห่างจากขุดตรวจจุดสกัดประมาณ 100 จึงเข้าตรวจสอบพบ แรงงานชาวเมียนมาอยู่ภายในรถ 10 คน เป็นผู้ชาย 9 คน และผู้หญิง 1 คน โดยนั่งอยู่ด้านหน้ารถ 6 คน (รวมทั้งคนขับ) และอยู่ในกระบะด้านหลัง 4 คน มียาดดานา โซ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ผู้ขับ ขับกระบะคันดังกล่าวไปรับแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 9 คนจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำไปส่งให้นายจ้างรายหนึ่งในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เรียกค่าโดยสารคนละ 1,500 บาท ซึ่งแรงงานเมียนมาดังกล่าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา มาเป็นเวลากว่า 2 เดือน โดยเข้ามาทางด่านแม่สอด จ.แม่ฮ่องสอน
จากนั้นเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอป่าบอน เพื่อตรวจสอบโรคและวัดไข้ พบว่า1 คนจากจำนวนดังกล่าวมีไข้สูง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำตัวเข้าตรวจที่โรงพยาบาลอำเภอป่าบอนทันที เบี้องต้นจาการตรวจและติดตามอาการของแพทย์พบชิ้นส่วนเชื้อ หรือ ซากเชื้อโรคโควิด-19
ด้าน นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง แถลงข่าวด่วนยืนยันพบชิ้นส่วน หรือซากเชื้อโรคโควิด-19 กับแรงงานเมียนมาที่ถูกจับกุมจำนวน 1 ราย พื้นที่อำป่าบอน นั้นจากการตรวจพบเบื้องต้นพบเป็นไข้สูงและมีซากเชื้อโควิด-19 เนื่องจากผู้ป่วยแรงงานเมียนมาคนดังกล่าวเข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นเวลา 2 เดือนเศษ
ทั้งนี้ต้องรอผลยืนยันอีกครั้งจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) ว่า เชื้อดังกล่าวยังมีชีวิตหรือไม่ ส่วนผู้เกี่ยวข้องหรือสัมผัส รวมทั้งครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตั้งด่านตรวจ จำนวน 16 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าไปทำการติดตามตรวจวัดอาการไข้ ทุกระยะ พร้อมให้อยู่ในสถานที่กักกันบริเวณ
ทางสาธารณสุขจังหวัดพัทลุงยืนยัน ทางจังหวัดพัทลุงพร้อมรับมือสถานการณ์หากผลออกมาว่าชิ้นส่วนเชื้อ หรือซากเชื้อ ดังกล่าวยังมีชีวิต เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสหรือกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง ได้รับการตรวจวัดอาการไข้ทุกระยะ และอยู่ในสถานที่ปลอดภัยจากบุคคลภายนอก โดยใช้มาตรการเหมือนที่ผ่านมาทุกอย่าง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงอย่าตื่นตระหนก
