สุดทึ่ง! คุณทวด 5 แผ่นดิน เปิดเคล็ดลับ อายุยืน 103 ปี ไม่เคยเจ็บป่วย ถือจอบขุดดินปลูกพืชผักสบายๆ

จ.สงขลา – สุดทึ่ง คุณทวดอายุ 103 ปี เกิดเมื่อปี 2460 อยู่มา 5 แผ่นดิน ร่างกายแข็งแรงและอารมณ์ดีมาก ยังเดินเหินคล่องแคล้วไม่ต้องใช้ไม้เท้า ถือจอบขุดดินปลูกพืชผักข้างบ้าน ไม่มีโรคประจำตัวไม่เคยเจ็บป่วยหรือเข้าโรงพยาบาล เคล็ดลับง่ายๆกินผักกินปลาและไม่เครียด

ที่บ้านบ่อแพ หมู่ 12 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ที่หมู่บ้านนี้มีคุณทวดที่มีอายุยืนยาวอยู่คนหนึ่งชื่อว่า นายเหลาะ หมัดศิริ ซึ่งตอนนี้มีอายุถึง 103 ปี โดยเกิดเมื่อปี พ.ศ.2460 ซึ่งหากนับอายุแล้วกลายเป็นคุณทวด 5 แผ่นดิน

โดยคุณทวดเหลาะ หรือชื่อที่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่เป็นชาวไทยมุสลิมเรียกกันว่า”โตะชายเหลาะ” ปัจจุบันสุขภาพร่างกายแข็งแรกมาก มีเพียงหูตาที่ฝ่าฟางไปบ้าง แต่ยังเดินเหินได้ด้วยตัวเองไม่ต้องใช้ไม่เท้า ที่สำคัญเป็นคนที่อารมณ์ดีมากยิ้มให้กับทุกคนที่มาเยี่ยมที่บ้าน

และตลอดชีวิตไม่เคยเข้าโรงพยาบาล ทุกๆวันยังถือจอบออกไปปลูกพืชผักสวนครัวที่บริเวณข้างบ้านไว้กิน โดยยังยกจอบขุดดินถากหญ้าได้คล่องแคล้วมากและอาจจะแข็งแรงกว่าคนที่อายุน้อยกว่าด้วยซ้ำ

คุณทวด 5 แผ่นดิน เปิดเคล็ดลับ อายุยืน 103 ปี ไม่เคยเจ็บป่วยคุณทวด 5 แผ่นดิน เปิดเคล็ดลับ อายุยืน 103 ปี ไม่เคยเจ็บป่วย

นายดนกิบหลี หมัดศิริ อายุ 60 ปี หรือบังกิบ ซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องบอกว่า คุณพ่อแข็งแรงมากเคยได้รับรางวัลผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยเจ็บป่วยล้มหมอนนอนเสื่อหรือเข้าโรงพยาบาล กินได้ทุกอย่างและใช้ชีวิตประจำวันช่วยเหลือตัวเองได้ปกติทั้งกินอยู่หลับนอน แม้จะอยู่บ้านคนเดียว และเป็นคนอารมณ์ดีมากไม่เครียด

นายดนกิบหลี เล่าว่า คุณพ่อมีลูกทั้งหมด 6 คน คนโตอายุ 70 ปี และตนซึ่งเป็นคนเล็ก 60 ปี แต่ลูกได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว 2 คน เคล็ดลับที่พ่อแข็งแรงมากแม้ว่าจะอายุถึง 103 ปี คือกินผัก กินปลาและสมัยก่อนทำไร่ทำนาแม้แต่ปัจจุบันก็ยังคงหยิบจอบออกไปปลูกผักข้างบ้านซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปในตัวเพราะเป็นคนที่อยู่เฉยๆไม่ได้ ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัย

คุณทวด 5 แผ่นดิน เปิดเคล็ดลับ อายุยืน 103 ปี ไม่เคยเจ็บป่วยคุณทวด 5 แผ่นดิน เปิดเคล็ดลับ อายุยืน 103 ปี ไม่เคยเจ็บป่วยคุณทวด 5 แผ่นดิน เปิดเคล็ดลับ อายุยืน 103 ปี ไม่เคยเจ็บป่วย

ด้านคุณทวดเหลาะ เล่าว่า สมัยก่อนทำนา เลี้ยงวัว ซึ่งสมัยนั้นวัวตัวละ 35 บาท และต้องแบกไม้จากตัวเมืองหาดใหญ่ มาสร้างบ้านที่อยู่ปัจจุบันระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่าให้มาเยี่ยมใหม่ไม่ต้องมีอะไรมาฝากก็ได้พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ใครเห็นแล้วยังอารมณ์ดีตามไปด้วย

ดูต้นฉบับ