นพ.กัมปนาท ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ เผยหากคนไข้มีอาการฉี่บ่อยกลางคืน พร้อมขาบวม อาจเสี่ยงหลายโรค เช่น โรคหัวใจ-ไต หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อที่เท้า ควรรีบมาพบแพทย์
วันนี้ (28 ต.ค.) เพจ “Sarikahappymen” หรือ นพ.กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ได้ออกมาให้ความรู้ หากมีอาการ “ฉี่บ่อยกลางคืน ทำไมต้องดูขาบวมหลายครั้งที่คนไข้มาโรงพยาบาลด้วยอาการฉี่บ่อยกลางคืน คุณหมอมักจะต้องตรวจดูอาการขาบวมร่วมด้วย ซึ่งบางคนก็อาจสงสัยว่าหมอทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า หมอไม่น่ารักรึเปล่า เลยมาอธิบายให้ฟังกัน “อาการขาบวม เป็นอาการที่มีภาวะบวมตั้งแต่เท้าขึ้นไปถึงข้อเท้า รวมถึงหน้าแข้งได้ อาจเป็นข้างเดียว หรือเป็นสองข้างก็ได้ โดยอาการสังเกต เช่น มีอาการตึงที่เท้า ใส่รองเท้าแล้วคับ ใส่กางเกงแล้วติดขา หรือเห็นรอยบุ๋มชัดเจนเมื่อถอดรองเท้าหรือถุงเท้าออก หรือเอานิ้วกดอยู่บริเวณหน้าแข้งแล้วบุ๋มลงไปไม่เด้งกลับมาครับ แต่ถ้าเลยต้นขาไปแล้วเห็นเป็นร่องบุ๋มอย่าไปซี้ซั้วกดนะ
สาเหตุที่ทำให้เท้าบวมก็มีได้หลายสาเหตุ-โรคหัวใจ ในภาวะหัวใจวายจะทำให้มีอาการขาบวมทั้งสองข้าง มักจะมีอาการเหนื่อยนอนราบไม่ได้ร่วมด้วย-โรคไต ในภาวะของไตวายเรื้อรังจะมีอาการน้ำเกิน ขาบวมทั้งสองข้างแต่มักมีอาการร่วมกับปัสสาวะออกน้อย
นอกจากนี้ การเกิดการอักเสบติดเชื้อที่เท้าหรือโรคตับ โรคไทรอยด์ โรคทางหลอดเลือดขา หรือการทานยา NSaiD บางชนิดก็อาจทำให้เกิดการขาบวมได้ และหลายครั้งเวลาคนไข้มีปัญหาขาบวม ก็อาจจะมีฉี่บ่อยกลางคืนร่วมด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดร่วมกับภาวะของโรคหัวใจที่ทำให้การสูบฉีดเลือดไม่ดี ทีนี้ช่วงกลางวันทั้งเดิน ยืน นั่งห้อยขา ไปม็อบ น้ำบางส่วนก็เลยกองอยู่ที่ขาทำให้มีอาการขาบวม แต่พอกลางคืนเรานอนราบ น้ำก็ไหลกลับง่ายๆ ไม่ต้องสู้กับแรงดึงดูดของโลก ขาก็ยุบ ส่วนน้ำที่เกินก็ถูกขับออก ก็เลยทำให้มีฉี่ออกมามากนั่นแหละ
ดังนั้น ถ้าฉี่บ่อยร่วมกับตรวจเจอภาวะขาบวมนี้ การรักษาก็อาจต้องตรวจภาวะของหัวใจหรือไต และทำการรักษาควบคู่ไปด้วย ก็เลยทำให้หลายๆ ครั้งเวลามาด้วยอาการฉี่บ่อย หมอถึงต้องขอตรวจขาด้วยนั่นแหละ
และอาจลองสังเกตตัวเองได้ง่ายๆ โดยการเอานิ้วกดหน้าแข้งดู ถ้ากดยุบบุ๋มก็ให้ระวังภาวะน้ำเกินไว้ด้วย แต่ถ้าบวมแต่กดไม่ยุบ นั่นก็อาจเกิดจากหมูกระทะเป็นเหตุ สังเกตได้นะครับ”