ป้าวัย 65 ปี ชาว อ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ ถึงกับหลั่งน้ำตาคาซุปเปอร์มาเก็ต หลังเอาบัตรคนจนไปรูดแล้วมีสิทธิ์ซื้อของใช้ได้ 500 บาท จากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ)งวดแรก เผยทั้งตัวไม่มีเงินแม้บาทเดียว เงินวันนี้ถือว่าต่อชีวิตไปได้อีกครั้ง
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 63
โดยผู้ถือบัตรฯ ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (300+500) รวมเป็น 800 บาท/เดือน และผู้ถือบัตรฯ ที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (200+500) รวมเป็น 700 บาท/เดือน สำหรับในรอบเดือนตุลาคมนี้ ผู้มีสิทธิจะได้รับวงเงินเพิ่มเติม จำนวน 500 บาท ในวันนี้ (8 ตุลาคม) และในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะได้รับวงเงินเพิ่มเติมในวันที่ 1 ของเดือน
วานนี้ (8 ต.ค.) บรรยากาศตามร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่จะมาเลือกซื้อสินค้าจำเป็นในการดำรงชีพ เช่น ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยแต่ละคนสีหน้าดีใจ
นางสวอน ซ่อนกลิ่น อายุ 65 ปี ขึ้นรถกระบะกับชาวบ้าน มาตรวจเช็คว่ามีเงินเข้าตามที่รัฐบาลประกาศว่าเงินงวดแรกเข้า วานนี้ (8 ต.ค.) จริงหรือไม่
โดยหลังตรวจสอบกับพนักงานร้านค้า พบว่าตนมีสิทธิ์ซื้อสินค้าได้ 500 บาทจริง นางสวอน ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พร้อมเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายถูกเลิกจ้างเพราะพิษโควิด-19 กลับมาอยู่บ้าน ลูกอีกคนไปมีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด ที่ผ่านมาลูกชายคนที่ถูกเลิกจากจะส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน แต่ตอนนี้ตกงานแล้ว
ยอมรับว่าทั้งครอบครัวไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวและในบ้านไม่มีอาหารกินอีกต่อไป เพราะเงินเบี้ยคนชราได้ซื้อข้าวสารกับจ่ายค่าไฟไปก่อนหน้านี้แล้ว พอมาทราบว่ามีสิทธิ์ซื้อของได้ รู้สึกโล่งใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ขอขอบคุณรัฐบาล ที่ยังต่อลมหายใจให้กับคนจนได้
ดูต้นฉบับ ภาพ – ศูนย์แจ้งข่าวบุรีรัมย์