กระทรวงสาธารณสุข แถลงยืนยันผู้ต้องขังใหม่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ นับเป็นการติดเชื้อในไทยคนแรก หลังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อนาน 100 วัน พบประวัติทำงานดีเจในร้านอาหาร เบื้องต้น มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 61 คน
วันนี้ (3 ก.ย.2563) พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา เปิดเผยถึงกรณีรายงานผู้ต้องขังใหม่มีผลตรวจเชื้อ COVID-19 เป็นบวก ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
โดยระบุว่า ทราบผลการตรวจเชื้อ COVID-19 ของผู้ต้องขังคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นการตรวจประจำสำหรับผู้ต้องขังแรกรับของกรมราชทัณฑ์ พร้อมส่งเชื้อตรวจยืนยันห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง พบติดเชื้อจริง
ในวันนี้ได้ส่งทีมกรมควบคุมโรค เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กทม. และทีมกรมราชทัณฑ์ ลงสอบสวนโรคพบผู้ต้องขังคนดังกล่าวมีเสมหะเล็กน้อยในวันที่ 29 ส.ค. ซักประวัติย้อนหลัง 14 วัน เบื้องต้น วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการอาศัยอยู่กับครอบครัวในคอนโดบ้านสวนธน พุทธบูชา บางมด ในครอบครัวมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน
ส่วนในที่ทำงาน ผู้ต้องขังทำงานที่ร้านสามวันสองคืน สาขาพระราม 3 และ พระราม 5 อาชีพดีเจ เบื้องต้น ด้วยลักษณะอาชีพไม่ได้สัมผัสกับผู้อื่น และทำงานในร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในถนนข้าวสาร นอกจากนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในวันขึ้นศาลในวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 20 คน เป็นทนายความ เจ้าหน้าที่เรือนจำ นักโทษร่วมตัดสินคดี และนักโทษร่วมรถโดยสาร
สำหรับในเรือนจำมีการแยกกักกันผู้ต้องขังแรกรับจำนวน 35 คน รวมผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีการตรวจทั้งหมดแล้ว 34 คน ไม่มีการติดเชื้อ แต่ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 34 คน และอาสาสมัครนักโทษคนดูแล 2 คน และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์อีก 2 คน หลังจากนี้จะสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
ผู้ต้องขังติด COVID-19 เป็นคนที่ 2
ด้านนายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ดูแลผู้ต้องขังกว่า 300,000 คน การพบผู้ติดเชื้อรายนี้นับเป็นคนที่ 2 เท่านั้น และเป็นการตรวจพบจากมาตรการการคัดกรองของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกมาช่วยตรวจให้ ซึ่งเมื่อตรวจแล้วพบว่า มีผลเป็นบวก
“กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า การพบผู้ติดเชื้อคนนี้ ไม่ได้มีผลต่อผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพราะมีการแบ่งพื้นที่ผู้ต้องขังใหม่อย่างชัดเจน เพื่อกักกันให้ครบ 14 วัน ซึ่งผู้ต้องขังรายนี้ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ ”
ทั้งนี้ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง บางเขน มีผู้ต้องขังอยู่ 1,000 คน ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีมาตรการกักกันผู้ต้องขังใหม่มตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาด COVID-19 และยึดมั่นมาตลอด
โดยกรมราชทัณฑ์ได้ส่งผู้ติดเชื้อไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว โดยแยกเป็นห้องเดี่ยว และแยกผู้ต้องขังในห้องเดียวกัน 34 คน ไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์เช่นกัน แยกเป็นผู้ป่วยดูแลเป็นพิเศษ ตามช่วงเวลาของโรค
ขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลแก่ประชาชนโดยไม่ปกปิดและเน้นให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ และลดความแออัด สำหรับประชาชนส่วนหนึ่งที่มีความกังวลสามารถโทรติดต่อได้ที่ 1422
“ ผู้ป่วย COVID-19 คนนี้ นับเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศคนแรก หลังจากประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อนาน 100 วัน จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคต่อไป”
ด้าน นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ระบุว่า กทม.ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคทั้งในตั้งแต่เช้าในกรมราชทัณฑ์ ที่พักอาศัยผู้ป่วย ศาล และสถานที่ทำงาน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามสถานที่ทำงานทุกแห่งให้ดำเนินการปิด 3 วัน เพื่อทำความสะอาด รวมถึงสอบสวนโรคผู้ที่ร่วมทำงานว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือไม่ หากเป็นก็จะได้ตรวจเชื้อและแยกกักกันต่อไป
“สำหรับประชาชนที่คิดว่าสัมผัสผู้ป่วยแล้วไม่มั่นใจ สามารถเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเองได้ที่แอปพลิเคชัน BKK COVID-19 เพื่อประเมินเบื้องต้น หากท่านมีประวัติเสี่ยงสูงจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปเพื่อตรวจเชื้อ COVID-19 ต่อไป”
