นครศรีธรรมราช – ดวลปืนเดือด! วิสามัญ “เอ วังโหล” เจ้าพ่อค้ายาเสพติดตัวเอ้คาบ้านใน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หลังไม่ยอมมอบตัว เหิมสุดถือเอ็ม 16 ยิงสวนตำรวจสนั่นกว่า 20 นัด ก่อนจบชีวิต ด้านตำรวจ-อส.ตร.เจ็บ 3 ราย
วันนี้ (31 ส.ค.) ขณะที่ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ชุดสืบสวน สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และ สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้สนธิกำลังกันนำหมายศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 137/1 หมู่ 12 บ้านวังโหล ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยมี นายปรีชา รัตนมณี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นบิดาของ นายอุดม รัตนมณี หรือ “เอ วังโหล” มาเปิดประตูบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับ และขอร้องให้นายปรีชา ไปเรียกนายอุดม ลูกชายออกมา ปรากฏว่า นายอุดม หรือเอ วังโหล รู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม จึงได้เปิดประตูบ้านอีกด้าน และเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นจึงเกิดการดวลปืนกันขึ้นอย่างดุเดือด
หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่พบว่าฝ่ายนายอุดม หรือเอ วังโหล เสียชีวิต พร้อมกับอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนขนาด 11 มม. อยู่ตรงบริเวณหน้าบ้าน สภาพศพถูกยิงเข้าศีรษะ และลำตัว สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว สะพายกระเป๋าใส่แมกกาซีนอาวุธปืนขนาด 11 มม. พร้อมกระสุนเต็มอัตรา เงินสดในกระเป๋าจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 ชนิดลำกล้องสั้น ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย คือ พ.ต.ต.พระมูล คงชู สารวัตรสืบสวน สภ.กมลา มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะ กระสุนถากเป็นแผลฉกรรจ์ นิ้วชี้ขวาขาด และมีบาดแผลจากสะเก็ดกระสุนบริเวณหน้าแข้งขวา รายต่อมาคือ ด.ต.วัฒนา กาญจนะ ตำรวจสืบสวน มีบาดแผลถูกยิงเข้าขาขวา อีกรายคือ นายถนอมศักดิ์ วิสุทธิ์ศักดิ์ อส.ตำรวจงานสืบสวน สภ.กมลา โดยถูกนายปรีชา บิดาของนายอุดม ใช้มีดพร้าฟันศีรษะได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลลานสกา
ต่อมา พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าอำนวยการสอบสวน และทำการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ พร้อมกันนั้น ได้ประสานเจ้าพนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพ ตามเหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่เพื่อนบ้านของผู้ตายได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า นายอุดม รัตนมณี หรือเอ วังโหล พ้นโทษคดียาเสพติดมาได้ราว 1 ปีเศษ แต่ยังมีพฤติกรรมค้ายาเสพติด ก่อนหน้านี้มีการทำประชาคมหมู่บ้านแบบลับ โดยให้ชาวบ้านเขียนข้อมูลแจ้งทางการถึงพฤติการณ์ของนายอุดม และได้ถูกแจ้งข้อมูลไปแล้ว ส่วนพฤติกรรมของเจ้าตัวนั้น มักเดินทางไปมาระหว่าง จ.ภูเก็ต และบ้านที่ อ.ลานสกา โดยมีรถใช้หลายคัน เวลากลับบ้านจะนำรถไปจอดที่อื่น ก่อนจะเข้ามาในบ้านแบบเงียบๆ เป็นประจำ
พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้ตามหมายจับกุมมา 2 หมาย เป็นหมายจับคดีสมคบร่วมกันค้ายาเสพติด และฟอกเงิน หมายแรกคือ นายอุดม รัตนมณี หรือเอ วังโหล หมายที่ 2 คือ น.ส.อารียา พันธ์ทิพย์ ภรรยาของนายอุดม ซึ่งจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ กรณีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นในการป้องกันตัว จึงเป็นเหตุในการยิงต่อสู้ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย การตรวจค้นในบ้านได้จัดชุดอีโอดี และสุนัขสงครามติดตามกลิ่นยาเสพติดมาด้วย เบื้องต้น พบยาเสพติดจำนวนหนึ่งแล้ว พร้อมทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 และ 11 มม. ซึ่งได้ตรวจยึดทั้งหมด
ขณะที่การควบคุมตัวผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่นั้น ได้นำตัว น.ส.อารียา พันธ์ทิพย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบร่วมกันค้ายาเสพติด และฟอกเงิน กลับไปดำเนินคดีในท้องที่ สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ส่วนนายปรีชา รัตนมณี บิดาของนายอุดม รัตนมณี เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีฐานพยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงานในขณะช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ กรณีได้ใช้มีดพร้าฟัน นายเฉลิมศักดิ์ วิสุทธิศักดิ์ ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
