กรณี นายก อบต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ได้ร่วมกับ ผู้รับเหมารายหนึ่งเป็นคน จ.กำแพงเพชร จัดกิจกรรม ทอดแหในหนองเล่ม เป็นหนองน้ำประวัติศาสตร์ ที่ปรากฏในพงศาวดารพ่อขุนรามคำแหง ตั้งอยู่เชิงดอย อันเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ยุทธหัตถี หน้าวัดพระบรมธาตุบ้านตาก วัดคู่บ้านคู่เมืองตาก
เป็นหนองน้ำที่ชาวบ้านและผู้ที่มาทำบุญได้นำปลาไปปล่อย เพื่อเป็นเขตอภัยทาน ชาวบ้านขนานนามว่า ดินแดนบุญแต่วันนี้ ได้จัดกิจกรรมทอดแห ผู้จัดเป็นนักธุรกิจมาจาก จ.กำแพงเพชรมีการขายบัตรล่วงหน้า ในราคาบัตรละ 600 บาท คาดว่ามีผู้ไปทอดแห กว่า 700 คน
ส่วนใหญ่เป็นพรานปลาที่มาจากสมาคมทอดแหแห่งหนึ่งท่ามกลางความงุนงงของชาวบ้านที่จู่ๆ มีกิจกรรมทอดแห ล่าปลาในช่วงเช้า ภาพสลดใจ ปลาบึกตัวใหญ่ น้ำหนัก ระหว่าง 150-250 กิโลกรัม ที่ชาวบ้านนำมาปล่อย อาศัยอยู่ในหนองน้ำ ดินแดนแห่งบุญแห่งนี้ มาหลายสิบปี
ถูกจับขึ้นมา ชำแหละแบ่งขาย บางตัวก็ถูกนำขึ้นท้ายรถกระบะไปขายต่อทำกำไรทั้งนี้ ชาวจังหวัดตาก อยากให้ นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เร่งตรวจสอบหาคนผิดด้าน นายก อบต.อ้างว่า ต้องนำปลาออกไปจากหนองน้ำ เพราะมีงบโครงการขุดลอกหนองเล่มคำถามที่ชาวบ้านแย้ง : ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการทอดแห ขายชีวิตสัตว์ในดินแดนแห่งบุญตรงนี้เลยน่าจะนำปลาบึกตัวใหญ่ ไปปล่อยให้ขยายพันธุ์ ที่เขื่อนภูมิพลจะดีกว่า
กิจกรรมการทอดแห ที่ อบต.เกาะตะเภา และผู้จัดงาน ร่วมมือกันทำ เป็นการฝ่าฝืนประกาศกรมประมงที่ห้ามทำการล่าสัตว์น้ำ ด้วยแหหรือข่ายในช่วงฤดูน้ำแดง หรือช่วงฤดูปลาวางไข่ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-31 สิงหาคม อีกด้วย ทั้งนี้ นายก อบต. ตำบลเกาะตะเภา อำเภอ บ้านตาก จังหวัดตาก ยกมือขอโทษ ชาวบ้านตาก เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยืนยันไม่ใช่เขตอภัยทาน เพราะปลาถูกขโมย ไม่มีเวลานั่งเฝ้า จึงเขียนป้าย บอกเขตอภัยทาน