จ.สงขลา – สองพี่น้องวอนสื่อช่วยเป็นสื่อกลางตามหาพ่อ หลังหายตัวไปกว่า 4 เดือน ทั้งป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ตาขวาบอด และมีโรคประจำตัว หลงๆ ลืมๆ โดยหายที่บ้านพัก อ.หาดใหญ่ และขอผู้พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส พร้อมมอบเงินรางวัลให้ครึ่งแสน
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.63 ที่ อ.หาดใหญ่ น.ส.ฤดีมาศ พันธุ์พฤกษ์ อายุ 33 ปี พร้อมน้องชาย ได้พบสื่อมวลชนใน จ.สงขลา พร้อมกับขอความช่วยเหลือในการเป็นสื่อกลางช่วยตามหาพ่อของตนเองคือ นายสมชาย พันธุ์พฤกษ์ หรือ ลุงเต่า อายุ 62 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบต้องเข้ารับการรักษาถึง 3 ครั้ง รวมทั้งตาข้างขวาบอด และมีอาการเดินเซ รวมทั้งมีโรคประจำตัวอีกหลายอย่าง และยังหลงๆ ลืมๆ ในบางครั้ง โดยได้หายตัวออกไปจากบ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชายภายใน ซ.เพาะช่าง ถ.กาจนวนิช 6 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงรุ่งเช้าวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา และเวลาผ่านไปนานกว่า 4 เดือน ก็ยังตามหาไม่เจอ
น.ส.ฤดีมาศ ลูกสาวคนโต เผยว่า พ่อได้เดินทางนั่งรถตู้โดยสารออกจากบ้านที่ อ.เบตง จ.ยะลา มายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้ไปพบเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่เปิดร้านขายของอยู่บริเวณ ถ.นิพัทธิ์อุทิศ 2 ย่านกลางเมืองหาดใหญ่ และมีการประสานให้ทางตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ช่วยพาไปส่งที่บ้านของพี่ชายใน ซ.เพาะช่าง ถ.กาจนวนิช 6 ก่อนที่จะพักอยู่ที่บ้านกับพี่ชาย และโทรมาแจ้งให้กับทางบ้านที่ อ.ทราบ ก่อนที่จะอยู่ได้ราว 1 สัปดาห์ และหายตัวไปเมื่อช่วงประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากทางญาติช่วยกันตามหา แต่ก็ไม่เจอ จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความคนหายเอาไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ ในวันที่ 24 มี.ค. และออกตามหากันเรื่อยมา ทั้งขับรถตามหา ออกแจกใบปลิวไปตามย่านชุมชนต่างๆ ในเมืองหาดใหญ่ รวมทั้งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยกู้ภัย องค์กรการกุศล ตามโรงพยาบาล รวมทั้งแจ้งเรื่องไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา และมูลนิธิกระจกเงา ให้ช่วยอีกแรง
โดยเบาะแสล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นอยู่ที่บริเวณแถววัดเกาะเสือ ย่าน ถ.นิพัทธ์สงเคราะห์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ แต่เมื่อไปตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าไม่ใช่ และอีกเบาะแสพบว่าอยู่ที่บริเวณหลังวัดถาวรวราราม ใกล้กับโรงพยาบาล ม.อ. แต่เมื่อไปตามหาก็ไม่พบตัวเช่นเดียวกัน
น.ส.ฤดีมาศ บอกด้วยว่า ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงพ่อมาก และที่สำคัญพ่อป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง และต้องกินยา จึงอยากหาตัวพ่อให้พบโดยเร็วที่สุด ซึ่งยืนยันว่า แม้พ่อจะหลงๆ ลืมๆ บ้างในบางครั้ง แต่ถ้าหากพบตัว และลองเข้าไปถาม ก็น่าที่จะบอกอะไรได้บ้าง จึงขอฝากไปถึงผู้คนที่พบเจอชายในลักษณะดังกล่าว ช่วยแจ้งเบาะแสไปยังตำรวจ สื่อมวลชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
หรือโทรมาที่เบอร์ญาติได้โดยตรงที่เบอร์ 089-6537387, 092-7828532 และหากถ่ายรูปมาประกอบก็จะสามารถช่วยให้ตามหาตัวได้ง่ายขึ้น โดยทางครอบครัวได้มีการตั้งรางวัลเอาไว้ด้วยเป็นเงินสด 50,000 บาท สำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสจนสามารถตามตัวได้เจอ.