จ.ราชบุรี – เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี ได้นำตัว นายธิตินันท์ ภู่สุวรรณ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ มาสอบสวนที่ สภ.จอมบึง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ที่ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
จากคดีที่พบรถยนต์สีแดงถูกเพลิงไหม้ และพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ภายในซากรถที่นั่งคนขับ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 112 หมู่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเปิดเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์ และยังพบรถยนต์เก่าอีกคันไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ลักษณะคล้ายชนท้ายกัน สภาพรถมีร่องรอยถูกไฟไหม้เสียหายทั้ง 2 คัน เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าโครงกระดูกที่พบนั้นน่าจะเป็นของนายธิตินันท์ ภู่สุวรรณ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ดังกล่าว เนื่องจากนายธิตินันท์ได้หายตัวไป และคาดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุถังก๊าซที่ติดตั้งในรถยนต์ระเบิดจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้คลอกนายธิตินันท์จนตาย ต่อมาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธในจุดเกิดเหตุหลายอย่าง จึงต้องทำการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก จนทราบว่าโครงกระดูกที่ถูกไฟเผาในรถนั้นไม่ใช่นายธิตินันท์ แต่เป็นคนอื่นที่ถูกนายธิตินันท์ฆ่าแล้วนำศพมาเผาอำพราง
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าถังก๊าซรถยนต์ยังไม่ได้มีการต่อสายเข้าระบบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่นายธิตินันท์ใช้อยู่เป็นประจำก็หายไป ในพื้นที่ สภ.จอมบึง ใกล้กับจุดเกิดเหตุ มีการแจ้งคนหายไว้ซึ่งไม่ใช่นายธิตินันท์ เมื่อตรวจสอบประวัตินายธินินันท์ ก็พบว่าถูกจับในข้อหาพยายามฆ่าเมื่อปี พ.ศ.2562 และคดีได้ถูกส่งฟ้องไปแล้ว
แต่ช่วงที่อยู่ในคุกนั้นนายธิตินันท์พยายามจะฆ่าตัวตาย ญาติจึงได้ซื้อหลักทรัพย์ประกันตัวออกมา โดยศาลจะมีการตัดสินในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ ทั้งผลดีเอ็นเอ การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์มาช่วยตรวจสอบ จนพบว่าศพในรถที่ถูกเผานั้นคือนายเปลี่ยน สีชมพู อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 10 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนที่เดินเก็บขยะขายในบริเวณดังกล่าว
พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง กล่าวว่า หลังจากที่ไปจับกุมตัวนายธิตินันท์ มาได้และสอบปากคำอยู่นานจนยอมรับสารภาพว่าเป็นคนที่ไปชักชวนนายเปลี่ยนมากินเหล้าที่บ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ทำร้ายนายเปลี่ยนจนตายโดยการตีด้วยเหล็กชะแลง ก่อนจะนำศพไปใส่ไว้ในรถ แล้วก็สตาร์ตรถให้พุ่งไปชนรถอีกคันที่จอดอยู่ ก่อนทำการจุดไฟเผา เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าตนเองนั้นตายไปแล้วคดีที่ตนเองต้องโทษอยู่ก็จะได้จบ เงินประกันที่ซื้อหลักทรัพย์มา ศาลก็จะต้องคืนให้เจ้าของทรัพย์ และตนยังมีเงินประกันชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งครอบครัวก็จะไม่เดือดร้อน ตนเองนั้นยอมที่จะอยู่เหมือนบุคคลที่สูญหาย
แต่สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบและไปติดตามจับกุมมาได้ ในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แล้วนำศพไปเผาอำพรางต่อไป
