สถานการณ์น้ำท่วมในจีนยังคงหนักหนาสาหัส หลายพื้นที่ถูกมวลน้ำเข้าท่วมขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โบราณสถาน วัด กำแพง อายุหลายร้อยปีได้รับความเสียหาย หนึ่งในนั้นคือ วัดกวนอินเก๋อ (Guanyinge) อายุ 700 ปี
วัดกวนอินเก๋อ (Guanyinge) ตั้งอยู่ในแม่น้ำแยงซี ในเมืองหวู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังถูกมวลน้ำจากแม่น้ำแยงซีล้อมรอบ จากผลพวงของฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นแล้ว สำนักบริหารมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน (NCHA) ยังระบุว่า โบราณสถานที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้มากกว่า 500 แห่งได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโบราณสถานตามแนวแม่น้ำแยงซี เช่น สะพานโบราณ กำแพงเมือง และสิ่งปลูกสร้างมากมาย
สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อง 141 ราย และประชาชนเกือบ 15 ล้านคนต้องอพยออกจากบ้าน ซึ่งถือเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ตามรายงานของ กระทรวงทรัพยากรน้ำ ระบุว่า ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนซานเสียต้าป้า (Three Gorges Dam ) พุ่งขึ้นถึง 61,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มเป็น 160 เมตร ซึ่งสูงขึ้นเกือบ 12 เมตรในช่วงเวลา 10 วัน และใกล้ระดับสูงสุดของเขื่อนที่ 175 เมตรเข้าไปทุกที
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่าจะทางการพยายามเข้าพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกต่อเนื่องและจะหนักที่สุดในช่วงปลายเดือน ก.ค.จนถึงต้นเดือน ส.ค. ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือของจีน และเขายังเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยในบริเวณ แม่น้ำเหลือง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของจีนที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนกว่า 20 ล้านคน ใน 24 จังหวัด รวมถึง เจียงซี อานฮุย หูเป่ย หูหนาน ฉงชิ่ง และ กุ้ยโจว ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากรายงานของกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉิน ระบุว่า มีผู้ป่วย 23 รายที่สูญหายหรืออาจเสียชีวิต และมากกว่า 1.7 ล้านคนต้องอพยพออกจากถิ่นฐาน
เรียบเรียงจาก : south china morning post
ดูข่าวต้นฉบับ