คอนโดฯ หรู ย่านสุขุมวิท เมินข้ออ้างเอกสิทธิทางการทูต ไม่ให้เข้ากักตัว COVID-19 หลังเดินทางมาจากเอสโตเนีย และอ้างว่าตรวจเชื้อแล้วทั้งที่ต้นทางและสุวรรณภูมิ นิติบุคคลฯ หวั่นกระทบลูกบ้าน 600 ห้อง
จากกรณีปัญหาทหารอียิปต์ติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่ จ.ระยอง และลูกสาววัย 9 ปี ของอุปทูตซูดาน ประจำประเทศไทย ที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องข้อยกเว้นกลุ่มบุคคลพิเศษ ที่เป็นแขกของรัฐบาล ซึ่งแม้ว่าทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จะขอให้ทบทวนการผ่อนคลายมาตรการกักกันของบุคคลในคณะทูต โดยเฉพาะคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตร ของบุคคลดังกล่าว
ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ค.2563 เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิติบุคคลอาคารชุดมิลเลนเนียม เรสซิเด้นส์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ มีมติไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตเอสโตเนีย ประจำประเทศไทย ที่เพิ่งจะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าพัก แม้ว่าก่อนหน้านี้สถานทูตจะแจ้งมาแล้วก็ตาม
นางนาตาชา รอยส์ รองประธานกรรมการ บริษัท พีพีเอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารพื้นที่นิติบุคคล กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 16 ก.ค. คอนโดฯ ได้รับการประสานจากสถานทูตเอสโตเนียว่า ขอให้ทูตเอสโตเนีย 1 คน มากักตัวที่คอนโดมีเนียมเป็นเวลา 14 วัน โดยมีผลตรวจจากประเทศต้นทาง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว
แต่ทางนิติบุคคลของคอนโดมีเนียม กังวลใจว่าจะเกิดผลกระทบต่อผู้อาศัยกว่า 600 ห้อง และห่วงจะเกิดปัญหาเหมือนกรณีลูกทูตซูดาน และผู้พักเช่าในนามบุคคล ไม่ใช่ในนามสถานทูต จึงเจรจานานกว่า 5 ชั่วโมง และไม่ยอมให้ทูตลงจากรถตู้ที่เดินทางมา
“ทางนิติบุคคลฯ ได้ประสานไปที่ ศบค. เนื่องจากมีการอ้างเอกสิทธิทางการทูตในการเข้าพัก ทางนิติบุคคลจึงประสานไปยังตำรวจ และสำนักงานเขตคลองเตย ให้เข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์หากเกิดความไม่พอใจของลูกบ้าน”
กระทั่งช่วงกลางดึก ทางกระทรวงการต่างประเทศ เข้าไปแก้ไข โดยจัดที่พัก และกักตัวที่เป็นของรัฐให้แก่เจ้าหน้าที่ทูตเอสโตเนียเรียบร้อยแล้ว