ทนายความพา 2 แกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ชูป้ายไล่นายกฯ เข้าแจ้งความเอาผิดตำรวจ สภ.เมืองระยอง ชุดล็อกคอคุมตัวขึ้นรถ 4 ข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยว ลักพาตัว และทำร้ายร่างกาย
ยังเป็นประเด็นร้อนในสังคม กรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 หนีจากโรงแรมที่พักในจังหวัดระยองไปเดินเที่ยวห้าง ส่งผลให้ต้องมีการกักตัวผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิดจากทหารอียิปต์กลุ่มนี้ มีการปิดโรงเรียน สถานที่ต่างๆ ห้างสรรพสินค้า จนนายกรัฐมนตรีต้องลงพื้นที่จังหวัดระยองตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่นายภานุพงศ์ จาดนอก และนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ สองแกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกตำรวจล็อกคอจับขึ้นรถไป สภ.เมืองระยอง หลังชูป้าย “การ์ดอย่าตกพ่…งง” และ “อยู่ต่อก็ฉิบหาย ออกไปไอ้สั…” หน้าจุดแรกที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึง จ.ระยอง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวออกมาหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ ที่ สภ.เมืองระยอง นายภีมร์เดช อมรสุคนธ์ ประธานสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก ในฐานะทนายความ ได้พานายภานุพงศ์ และนายณัฐชนน สองแกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รองสว.สอบสวน สภ.เมืองระยอง เพื่อดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ร่วมกันกระทำ ทั้งหมด 4 ข้อหา 1. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2. กักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสียอิสรภาพ 3. ลักพาตัว และ 4. ทำร้ายร่างกาย สำหรับข้อหานี้ยังต้องหาพยานหลักฐาน เพราะผู้เสียหายทั้งสองมีบาดแผลรอยช้ำดำเขียวบริเวณแขน
นายภีมร์เดช กล่าวว่า สาเหตุที่มาแจ้งความ ต้องการให้กระทบถึงคนสั่งการแบบนี้ได้อย่างไร คุณจะปิดหูปิดตาคนทั้งประเทศได้อย่างไร หรือท่านนายกฯ ตั้งทีมโปรโมตตัวเอง โดยการเข้าหาสื่อต่างๆ ในการรับฟังประชาชน ท่านต้องรับฟังให้มากกว่านี้ อย่าฟังแต่คนรอบข้างเอาแต่ใจ ต้องถามปัญหาเขาก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ฐาปนะ คลอสุวรรณา ผกก.สภ.เมืองระยอง กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว เตรียมเรียกประชุมดูรายละเอียดการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ทำอย่างไรเสียก่อนจึงจะสรุปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทวิตเตอร์แห่ติดแฮชแท็ก #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ประณามจนติดอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์