กลุ่มอาสาได้เคลื่อนย้าย “ทวดยางมันหมู” อายุนับร้อยปี ลงปลูกที่โรงเรียนบ้านป่าคลอกใหม่สำเร็จแล้ว เตรียมทำตัวค้ำยันรอติดรากใหม่ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของชาวบ้าน
ตลอดทั้งคืนวันที่ 10 ก.ค. ต่อเนื่องวันที่ 11 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ภายในโรงเรียนบ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ปลูกต้นยางมันหมูแห่งใหม่ แต่ชาวบ้านเข้าใจเรียกติดปากไปว่า “ทวดยางนา” ทั้งนี้จริงต้นยางดังกล่าวเป็นต้นยางมันหมูอายุนับร้อยปี ถือเป็นพันธุ์ไม้ป่าโบราณหายากใกล้สูญพันธุ์ หลังจากที่กลุ่มอาสาสมัครและภาคประชาชนได้ขนย้ายต้นยางมันหมู จากกลางถนนสายบ้านพารา-บ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ที่กำลังมีการทำถนนขนาด 4 ช่องจราจรมาถึงเป็นที่เรียบร้อย
ทีมงานอาสาสมัคร ได้ยกต้นทวดยางลงปลูกบริเวณที่จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีการใช้เครื่องจักรกลหนักชนิดต่างๆ เช่น รถเครน รถยก เป็นต้น ยกทวดยางมันหมูลงในหลุม เพื่อเพาะและปลูกใหม่ แต่ยังคงมีการประคองต้นไม้ไว้ เพื่อรอการค้ำยันตามขั้นตอนต่อไป ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของกลุ่มอาสาสมัคร และชาวบ้านในพื้นที่ที่มาช่วย และลุ้นระทึกในการนำทวดยางลงหลุมปลูก เพื่อรักษาชีวิตทวดยางมันหมูเอาไว้
ทั้งนี้ เมื่อในช่วงเช้าวันที่ 11 ก.ค. กลุ่มอาสาสมัครและคนงานนำเครื่องจักรกลของบริษัท ภูเก็ตกฤษติชัยการโยธา จำกัดที่ดำเนินการควบคุมการเคลื่อนย้าย และนำมาปลูกในครั้งนี้เตรียมทำการค้ำยัน เพื่อประคองต้นไม้ให้ยืนอยู่ได้
นายกฤษติชัย นพรัตน์ เจ้าของบริษัท ภูเก็ตกฤษติชัยการโยธา จำกัด กล่าวว่า ตนเองและกลุ่มอาสาสมัครมีการวางแผนการเคลื่อนย้ายทวดยางมันหมูต้นนี้มานานแล้ว โดยได้ดำเนินการมาจนถึงวันที่ 11 ก.ค. เป็นวันที่ 11 แล้ว วันนี้เป็นวันที่พวกเรารอคอย ที่เหลือในขั้นตอนสุดท้าย คือ การสร้างที่ค้ำยันทวดยางเอาไว้ โดยจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทุกอย่าง หลังจากนี้จะเป็นเรื่องการดูแลและบำรุงรักษาทวดยางมันหมูต้นนี้ให้สามารถยืนต้นอยู่ได้ตามธรรมชาติต่อไป สำหรับการย้ายทวดยางในครั้งนี้ เพื่อที่จะอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังตามข้อเรียกร้องของชาวโซเชียล รวมถึงประชาชนในพื้นที่ โดยได้มีการดำเนินการในการเคลื่อนย้ายและยกต้นถึงที่ปลูกเป็นเวลาทั้งหมด 11 วัน จึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ต้นยางมันหมู หรือทวดยาง ต้นนี้มีอายุกว่า 300 ปี เดิมทีตั้งอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามโรงเรียนบ้านพารา แต่ปัจจุบันกำลังมีโครงการขยายพื้นผิวจราจรเป็น 4 เลน ส่งผลให้ต้นยางดังกล่าวอยู่กลางถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมีแผนที่จะตัดออก ส่งผลทำให้โซเชียลมีเดียต่างๆ แสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ยกเลิกการตัด ขณะเดียวกันกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ได้ออกมาเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชะลอการตัด ก่อนที่จะมีกลุ่มจิตอาสาจากหลายภาคส่วนใน จ.ภูเก็ต รวมตัวกันขึ้น พร้อมกับร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมทุนทรัพย์เคลื่อนย้ายไปปลูกไว้ภายในโรงเรียนบ้านป่าคลอก เพราะมีพื้นที่ที่กว้างขวางและห่างไกลจากนักเรียนและมีความปลอดภัยแน่นอน
ต้นยางมันหมู (Dipterocarpus kerrii King) หรือ เรียกว่า ยางมันใส ยางมันข้น ยางวัด ละกูวิง) เป็นไม้วงศ์ยางท้องถิ่นในภาคใต้ อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ (Critically Endangered Species) สมควรแก่การอนุรักษ์ปลูกเพิ่มโดยชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ยังสามารถพบได้ในป่าจังหวัดพังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี และในกรุงเทพฯ มีปลูกอยู่ที่บริเวณ ปลูกอยู่บริเวณสวนพฤกษศาสตร์ วงศ์ยาง ข้างพลับพลายอด สวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานคร
ต้นยางมันหมูสามารถสูงได้ถึง 40 เมตร โคนมักมีพูพอน เปลือกหนาสีเทาล่อนเป็นสะเก็ด ใบเดี่ยว เรียงสลับ กว้าง 6-13 เซนติเมตร ยาว 8-17 เซนติเมตร รูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบด้านล่างมีขน ดอกเป็นช่อกระจะสั้นๆ สีชมพู ออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงโคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ยาว 2 กลีบ สั้น 3 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ ปลายบิดเวียนคล้ายกังหัน มีกลิ่นหอม เกสรเพศผู้ 20-30 อัน รังไข่เหนือวงกลีบ ผลกลม ขนาด 1.5-3 เซนติเมตร ผิวเรียบ มีปีกยาว 2 ปีก กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ยาว 10-15 เซนติเมตร ปีกสั้น 3 ปีก.