จ.กำแพงเพชร – สาวป่วยโรคอ้วนป่วยไทรอยด์ น้ำหนักตัวเกือบ 200 กก. ขอกู้ภัยช่วยวัดตัว ต่อโลงศพไว้ในวันสิ้นลม ไม่อยากให้เป็นภาระใคร หลังเคยหลับลึกมาแล้วหลายครั้ง แต่ญาติส่งโรงพยาบาลทัน
เวลา 17.00 น. วันที่ 4 ก.ค.63 อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน จุดโกบัง (พรานกระต่าย) เข้าพบ นางสาวนวรัตน์ จันทร์ผล หรือ บี อายุ 30 ปี ที่บ้านเลขที่ 40 ม.1 ต.วังควง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมนำตลับเมตรเข้าวัดตัวตามคำร้องขอ เพื่อทำการต่อโลงศพขึ้นมา เป็นการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าหากนางสาวนวรัตน์ เสียชีวิตลง
เนื่องจากมีโรคประจำตัวและเคยหลับลึกจนไม่รู้สึกตัวมาแล้ว หากเสียชีวิตไปจริงๆ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระญาติพี่น้อง เนื่องจากทราบมาว่าทางมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน จุดโกบัง พรานกระต่าย มีโลงศพไว้บริจาคให้สำหรับผู้ยากไร้ แต่ตนรูปร่างใหญ่ เกรงว่าจะไม่มีโลงศพใส่ได้ จึงได้ร้องขอไปยังอาสาสมัครกู้ภัยฯ ให้มาช่วยวัดตัว เพื่อทำโลงศพสำหรับตัวเอง
นางสาวนวรัตน์ จันทร์ผล เล่าว่า ตนเองพื้นเพเป็นคนจังหวัดสมุทรสาคร แต่มาอยู่กับสามีที่จังหวัดกำแพงเพชร และป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ไม่สามารถรักษาหายได้ และเป็นโรคอ้วน มีน้ำหนักเกือบ 200 กิโลกรัม จึงยากต่อการผ่าตัดรักษา โดยมักจะนอนหลับแล้วหายใจไม่ออกอยู่เสมอ จนบางครั้งหลับลึกไปโดยไม่รู้สึกตัว ซึ่งสามีและญาติได้ทำการปั๊มหัวใจ และนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการรักษาได้ทันหลายครั้ง
“ทุกวันนี้ก็ยังมีอาการอยู่ บางวันกำลังนอนหลับ หากเกิดอาการหายใจไม่ออก ต้องลุกขึ้นมานั่งแล้วหลับไปแบบนั้นตลอดทั้งคืน กลัวว่าหากเกิดอาการดังกล่าวขึ้นมาอีกแล้วหยุดหายใจไปนานจนกระทั่งเสียชีวิต จะสร้างภาระและความยากลำบากให้กับสามีและครอบครัวสามี เนื่องจากมีฐานะยากจน สามีก็ป่วยเป็นกระดูกทับเส้นประสาท เคยรับจ้างทั่วไปตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีงาน แม่สามีพิการหูหนวก มีรายได้แค่เงินช่วยเหลือผู้พิการ
ส่วนตัวเองมีรายได้จากการรับจ้างพับดอกไม้จันทน์เพียงเล็กน้อย ไม่มีเงินที่จะไปรักษาให้หายขาดได้ เพราะหากไปรักษาจริงก็ต้องใช้เงินเยอะ ทั้งค่ารักษา ค่าใช้จ่ายในการนอนโรงพยาบาล จึงคิดว่ากินยาบรรเทาไป หากวันใดเสียชีวิตขึ้นมาก็จะได้มีโลงศพไว้ใส่ตัวเอง ไม่ต้องลำบากญาติไปหาซื้อมา ซึ่งพี่ชายก็เป็นโรคอ้วน และเสียชีวิตไปก็หาโลงศพใส่ไม่ได้เช่นกัน”
ด้าน นายสมหวัง เจริญ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน จุดโกบัง พรานกระต่าย กล่าวว่าหลังได้รับการร้องขอจากผู้ป่วยและญาติ ว่าจะขอให้มาช่วยวัดตัว เพื่อต่อโลงศพเตรียมไว้เมื่อถึงคราวเสียชีวิต จึงสอบถาม ทราบว่าเป็นเรื่องจริง และเป็นความสมัครใจทั้งครอบครัว
จึงพากันมาวัดตัว ทั้งความกว้าง ความยาว ก่อนจะไปหาไม้มาต่อโลงเตรียมไว้ เมื่อเสร็จสิ้นก็จะนำโลงไปฝากไว้ที่วัดใกล้บ้านก่อน ซึ่งหากเสียชีวิตก็ต้องนำไปเผาอีกวัดที่ห่างจากบ้าน เพราะใช้เชิงตะกอนเผาแทนเมรุ เนื่องจากเป็นคนรูปร่างใหญ่ ไม่สามารถนำเข้าเตาเผาได้ ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นการแช่งกัน แต่ทำตามความประสงค์ของผู้ป่วยและญาติเท่านั้น
ขณะที่ นางสงบ แพงมี อายุ 61 ปี พี่สะใภ้ของนางสาวนวรัตน์ กล่าวว่า ถึงจะเป็นน้องสะใภ้ แต่ก็มองว่าเป็นคนในครอบครัว ไม่มองเป็นอื่น เค้าหนีร้อนมาพึ่งเย็น ก็ต้องช่วยดูแลกันไป รู้สึกสงสารและเห็นใจในอาการป่วย เมื่อน้องสะใภ้มาขอให้ประสานกู้ภัยมาช่วยต่อโลงศพก็ทำให้ตามใจเขา เพราะเขาคงคิดแล้วว่าหากวันใดเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็คงไม่อยากให้เป็นภาระคนข้างหลัง แต่ตอนนี้ก็ช่วยกันดูแลต่อไปให้ถึงที่สุด