“ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ท่านอาคม เอ่งฉ้วน อดีต รมช.กระทรวงศึกษาธิการ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็น อดีต ส.ส.กระบี่ 9 สมัย
อาคม เอ่งฉ้วน ปราศรัยหาเสียงได้อย่างสนุก การอภิปรายในสภา มีมุขตลก น่าชวนฟัง เป็นนักการเมืองคุณภาพคนหนึ่ง วันนี้ท่านได้เสียชีวิตด้วยโรคไต เมื่อตอนเที่ยงของวันนี้ (1 ก.ค.) ที่ รพ.กระบี่ นำความโศกเศร้าเสียใจมายังพวกเราชาวประชาธิปัตย์ และพี่น้องชาวจังหวัดกระบี่ ขอให้ดวงวิญญานของท่านจงไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
โดยมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายอาคม เอ่งฉ้วน เสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกในกระเพาะอาหาร หลังจากก่อนหน้านี้ต้องฟอกไตโดยตลอด และจะมีพิธีรดน้ำศพ ในวันพรุ่งนี้ ( 2 ก.ค.) ที่วัดแก้วโกรวาราม จ.กระบี่
จากข้อมูลในวิกิ พีเดีย นายอาคม เอ่งฉ้วน กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนักการเมืองชื่อดัง ด้วยเคยผ่านเวทีเลือกตั้้ง ด้วยการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ถึง 9 สมัย เกิดวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2494 เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเนื่องจากนายอาคมเป็นบุคคลที่มีรูปร่างอ้วนใหญ่ จึงได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า ตูมตาม มีบทบาทตรวจสอบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นผู้อภิปรายเรื่อง การทุจริตจัดซื้อเครื่องฉายดาว
ทั้งนี้ นายอาคม เอ่งฉ้วน เข้าสู่งานการเมืองโดยการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกระบี่ สมัยแรกในปี พ.ศ. 2526 จากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2529 ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2531 เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี พ.ศ. 2532 เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปี พ.ศ. 2535 จากนั้นในปี พ.ศ. 2540 จึงได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปี พ.ศ. 2540 และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ. 2542
ภายหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และมีการจัดตั้งรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวได้ประกาศจัดตั้ง รัฐบาลเงา หรือ ครม.เงา ขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และ นายอาคม เอ่งฉ้วน ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรค ให้ทำหน้าที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เงา ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกสมัย