กระบี่ – เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ต.บุญส่ง ล่องวารี สว.สอบสวน สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 81 หมู่ 3 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยอแข รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สัญญา ธรรมรัตน์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ แพทย์เวร รพ.กระบี่ กู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา รุดไปยังที่เกิดเหตุ
บ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียวแบบมีบริเวณบ้าน ข้างบ้านเปิดเป็นจุดรับซื้อเศษยาง พบชาวบ้านกว่า 500 คน ยืนล้อมอยู่รอบบริเวณบ้าน จนท.ต้องกั้นพื้นที่ไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณบ้านเกิดเหตุ ภายในบ้านบริเวณห้องโถง หน้าชั้นวางทีวี โดยทีวียังเปิดอยู่ บนพื้นพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย นอนจมกองเลือด เลือดนองเต็มพื้นบ้าน ทราบชื่อผู้ตายคือนายจรูญ ดวงขวัญ อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพรับซื้อเศษยาง รวมทั้งยังเป็นร่างทรง และ น.ส.เรณู หรือตา ดำหาย อายุ 48 ปี ภรรยาผู้ตาย อาชีพเป็นหัวหน้าแม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่
สภาพศพนายจรูญ นอนตะแคงข้าง นุ่งผ้าโสร่งผืนเดียว ที่ขมับขวามีรอยกระสุนปืน 1 รู กระสุนทะลุศีรษะด้านซ้าย ในมือขวาผู้ตายยังกำปืนลูกโม่ขนาด .38 อยู่ ใกล้กันเป็นร่างของ น.ส.เรณู นอนหงายเสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำตาล นุ่งผ้าถุง มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกัน กระสุนเข้าบริเวณต้นแขนขวา 1 นัด ใต้คาง ทะลุท้ายทอย 1 นัด นอกจากนี้ภายในห้องนอนยังพบศพของ ด.ช.พงศกร หรืออั๋น ดวงขวัญ อายุ 12 ปี ลูกชายนายจรูญ ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกัน กระสุนเข้าที่แขนขวา 1 นัด และด้านบนกลางศีรษะ 1 นัด ตรวจสอบภายในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้
นอกจากนี้ที่หน้าบ้าน จนท.ยังพบ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของนายจรูญ นั่งอยู่ในอาการช็อก เนื่องจากทราบว่า ด.ช.เอ ก็อยู่ในเหตุสยองครั้งนี้ด้วย แต่เจ้าตัวไม่ถูกยิง ตำรวจสอบสวนในเบื้องต้น ด.ช.เอ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในครัวหลังบ้าน ส่วนทั้ง 3 คน นั่งดูทีวีกันอยู่ที่ห้องโถงบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด
จึงวิ่งออกมาดู ก็พบว่านายจรูญ ผู้เป็นตา ยิง น.ส.เรณู นอนตายจมกองเลือดไปแล้ว และกำลังเดินเข้าไปยิง ด.ช.พงศกร ซึ่งวิ่งเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับตะโกนบอกให้ตนกลับไปเก็บจานกินข้าวที่ในครัว ตนตกใจจึงวิ่งเข้าไปในครัว จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังอีกนัดในห้องนอน ตนก็ออกมาดูอีกครั้ง และเห็นนายจรูญ กำลังใช้ปืนจ่อที่ศีรษะตัวเอง และไล่ให้ตนออกนอกบ้าน ตนจึงวิ่งออกมานอกบ้านก่อนที่นายจรูญจะยิงตัวเองตาย จากนั้นตนจึงวิ่งไปบอกญาติที่บ้านใกล้ๆ กัน
ส่วนสาเหตุการตายนั้น เบื้องต้นสอบถามจาก นางปรารภ เจริญพร อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนายจรูญ ทราบว่า นายจรูญ มีอาการป่วยทางจิต เคยไปรับการรักษาที่ รพ.สวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี และหมอให้มารับการตรวจรักษาต่อที่ รพ.กระบี่ โดยก่อนนี้มีภรรยาคนแรกคือแม่ของ ด.ช.พงศกร แล้วภรรยาเพิ่งเสียชีวิตไปได้ประมาณ 1 ปี ก่อนจะมาได้ น.ส.เรณู เป็นภรรยาเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา
และชวนมาอยู่กินด้วยกันที่บ้าน โดยที่บ้านจะอยู่กับลูกชาย และหลานชาย ส่วนสาเหตุอื่น ไม่เคยทราบว่าเจ้าตัวจะมีปัญหาเครียดเรื่องอะไรหรือไม่ เพราะไม่เคยพูดปัญหาให้ฟัง แม้แต่ช่วงเย็นก่อนจะเกิดเหตุ ผู้ตายยังไปหาตนที่บ้านใกล้ ๆ กัน ก็ยังพูดคุยกันตามปกติ ผู้ตายไม่ได้มีอาการเครียดใด ๆ ให้เห็น และไม่มีสัญญาณว่าจะก่อเหตุแต่อย่างใด ส่วนเรื่องฐานะทางการเงิน ก็ไม่ได้มีปัญหาขัดสนอะไร จัดว่าค่อนข้างมีฐานะ เพราะรับซื้อเศษยางอยู่ที่บ้าน กับภรรยาก็รักกันดี ไม่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไร
ทั้งนี้ตำรวจตรวจสอบภายในบ้าน ยังพบว่าภายในบ้านมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ และไฟของกล้องก็ยังทำงาน แต่เมื่อลองเปิดกล้องย้อนหลังกลับไปดู กลับไม่พบภาพในช่วงนาทีเกิดเหตุบันทึกไว้
แต่กลับมีภาพบันทึกช่วงที่ทั้งคู่นอนเป็นศพแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่พากันแปลกใจ จึงนำเอากล่องบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิดกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อต้องการดูเหตุการณ์ในช่วงนาทีเกิดเหตุ นอกจากนี้จะเชิญญาติ และนำตัว ด.ช.เอ หลานคนตายไปสอบสวนอีกครั้งเพื่อคลี่คลายปมสังหารโหดครั้งนี้.
