☆ สาระ-น่ารู้

จักษุแพทย์ แนะ 5 วิธีดูแลสายตา ป้องเกิดอาการ Computer Vision Syndrome

จักษุแพทย์แนะ 5 วิธีดูแลสายตา – ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนต่างก็เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ทำให้หลายคนที่นั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ติดกันเป็นเวลานาน

อาจเกิดอาการปวดเมื่อยตา ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว ซึ่งอาจบ่งบอกว่ากำลังเสี่ยงกับกลุ่มอาการที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม หรือ Computer Vision Syndrome (CVS)

กลุ่มอาการนี้ แม้ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อดวงตาหรือการมองเห็น แต่มักทำให้เกิดความไม่สบายตา อาจเป็นปัญหารบกวนการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน

พญ.วีรยา พิมลรัฐ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ซีวีเอส คือ กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์ เป็นเวลานาน โดยความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาในการใช้งานและจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง

การศึกษาพบว่า ประมาณ 90% ของผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมง ต่อวัน จะมีอาการซีวีเอส อย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจเป็นร่วมกันจนส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตในแต่ละวัน

ลักษณะกลุ่มอาการซีวีเอส มีดังนี้ ปวดเมื่อยตา ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว โฟกัสได้ช้าลง ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ หรือบางครั้งอาจมีอาการปวดหลัง ไหล่ หรือต้นคอร่วมด้วย

นอกจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นแล้ว ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ก็ส่งผลให้มีโอกาสที่จะเกิดความไม่สบายดวงตาเกิดขึ้นได้ เช่น

1.ขณะจดจ่อกับการอ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ จะมีการกะพริบตาน้อยลง ทำให้เกิดอาการตาแห้งง่ายขึ้น

2.แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม

3.มีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์

4.การที่ตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ไม่เรียบคมชัดเท่าตัวพิมพ์บนหน้าหนังสือ หรือมีความไม่นิ่งของสัญญาณในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ต้องพยายามใช้สายตาโฟกัสเพิ่มมากขึ้นจึงก่อให้เกิดอาการตาเมื่อยล้าได้ง่าย

5.ระยะห่างจากหน้าจอถึงตัวเรา

6.ระดับสายตาในการมองจอคอมพิวเตอร์

7.ท่าทางในการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม

การป้องกัน ซีวีเอส สามารถทำได้โดย

1.ปรับระดับการมองระหว่างจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟน ปรับท่านั่งในการทำงานให้เหมาะสม จุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ห่างจากตาประมาณ 20 – 28 นิ้ว โดยแป้นพิมพ์ควรวางอยู่ระดับต่ำกว่าจอ ให้ข้อมือและแขนขนานไปกับพื้น ข้อศอกตั้งฉาก ไม่อยู่ในลักษณะเอื้อมไปข้างหน้า ปรับระดับเก้าอี้ โดยให้ฝ่าเท้าวางราบไปกับพื้น เข่าตั้งฉาก

ต้นขาขนานกับพื้น อาจมีที่วางข้อศอกและแขนเพื่อลดอาการเมื่อยล้าที่หัวไหล่ แขน และข้อมือ เอกสารสิ่งพิมพ์หรือหนังสือควรวางอยู่ในระดับและระยะเดียวกับจอ เพื่อจะได้ไม่ต้องขยับหรือหันศีรษะ และเปลี่ยนการปรับโฟกัสมากเกินไป

2.ปรับแสงสว่างจากภายนอก และจากจอคอมพิวเตอร์ ควรปิดม่านหน้าต่าง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีแสงแดดหรือแสงสว่างจากภายนอกส่องกระทบกับจอคอมพิวเตอร์ แสงภายในห้องทำงานที่สว่างเกินไป จะก่อให้เกิดแสงสะท้อนที่จอได้ง่าย

ทำให้รู้สึกไม่สบายตาได้ หรืออาจใช้แผ่นกันแสงสะท้อนติดหน้าจอภาพ ปรับความสว่างของหน้าจอและความแตกต่างของสีระหว่างพื้นจอและตัวอักษรให้มองเห็นได้คมชัดและสบายตาที่สุด

3.พักสายตาระหว่างการทำงาน เมื่อใช้สายตาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 20 นาที ควรละสายตาออกจากจอคอมพิวเตอร์และมองออกไปให้ไกลประมาณ 20 วินาที ทุกๆ 2 ชั่วโมง ควรพักสายตาหรือลุกจากโต๊ะทำงานเพื่อเป็นการผ่อนคลายอย่างน้อย 15 – 20 นาที

4.กะพริบตาบ่อยขึ้น หรืออาจหยอดน้ำตาเทียม เพื่อช่วยลดอาการตาแห้งและช่วยให้สบายตาขึ้น

5.ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวัดสายตา หรือความผิดปกติของดวงตาที่อาจเกิดขึ้นได้

พญ.วีรยากล่าวด้วยว่า ทุกช่วงวัยอาจมีความผิดปกติทางสายตาที่แตกต่างกัน การตรวจ คัดกรองดวงตาช่วยให้ค้นพบความผิดปกติในระยะเริ่มแรก และยังช่วยให้ค้นพบโรคเกี่ยวกับดวงตาในขณะที่ยังไม่แสดงอาการ

เนื้อหาต้นฉบับ

admin

Recent Posts

อาหาร 10 ชนิดที่จะล้างพิษ(Detox)ในร่างกายของคุณ

การล้างพิษ (Detox) เป็นกระบวนการที่ช่วยกำจัดสารพิษหรือสิ่งสกปรกที่สะสมในร่างกายออกไป อาหารจัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด อาหารบางประเภทสามารถช่วยในกระบวนการนี้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ 10 อาหารที่ช่วยในการล้างพิษ: 1. มะนาว มะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษออกจากร่างกาย… อ่านเพิ่มเติม..

3 days ago

อาหารที่ช่วยบำรุงและ ลดการอักเสบของข้อเข่า

ข้อเข่า โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายบานพับ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย การดูแลข้อเข่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสื่อมก่อนวัย และลดปัญหาอาการปวดหรือข้ออักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารบำรุงข้อเข่าให้เสื่อมช้าลง ปลา ที่มีโอเมก้า 3 เช่น โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น… อ่านเพิ่มเติม..

3 weeks ago

ประวัติพระเถระ “พระมหาโมคคัลลานะ” อัครสาวกเบื้องซ้าย ของพระโคตมพุทธเจ้า

• ท่านพระมหาโมคคัลลานะ พระเถระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระมหาโมคคัลลานะ มีชื่อเดิมว่า "โกลิตะ" เป็นบุตรพราหมณ์ท้ายบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์ โกลิตมาณพ เป็นเพื่อนสนิทกับอุปติสสมาณพ หรือ พระสารีบุตร… อ่านเพิ่มเติม..

3 weeks ago

พระพุทธเจ้า ทรงแสดงอุบายแก้ง่วง ๘ วิธีแก่พระโมคคัลลานะ

พระพุทธเจ้าทรงแสดงอุบายแก้ง่วงแก่พระโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ในหมู่บ้านโกลิตคาม ได้ชื่อว่า “โกลิตะ” ตามชื่อของหมู่บ้าน มารดาชื่อโมคคัลลี คนทั่วไปจึงเรียกท่านว่า “โมคคัลลานะ” ตามชื่อของมารดา ท่านเป็นสหายที่รักกันมากับอุปติสสมาณพ (พระสารีบุตร) เที่ยวแสวงหาความสุขความสำราญ ตามประสาวัยรุ่น และพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย… อ่านเพิ่มเติม..

4 weeks ago

แจก “บทสวดมนต์ไหว้พระประจำวันเกิด” ทั้ง 7 วัน เสริมสิริมงคล

บทสวดมนต์ประจำวันเกิด แบบเต็มและแบบย่อทั้ง 7 วัน ตามกำลังวัน สวดก่อนนอนชีวิตราบรื่น ร่มเย็น เสริมสิริมงคล ประโยชน์ของการสวดมนต์ก็คือทำให้จิตใจเราผ่องใส และจิตใจสงบมากขึ้น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิด คือ พระพุทธรูปปางถวายเนตร บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันอาทิตย์… อ่านเพิ่มเติม..

1 month ago

คนท้องผูกบ่อย! ต้องลองผลไม้ 9 ชนิดนี้กากใยสูง รับรองถ่ายคล่องแน่

อาการท้องผูก ท้องอืด ถึงแม้จะไม่ส่งผลอันตรายมากถึงชีวิตแต่ก็สร้างความอึดอัดไม่สบายท้อง หรืออาจลุกลามกลายเป็นโรคอันตรายในอนาคตได้ และที่สำคัญอาการเหล่านี้มักส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง! ผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร ทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ผลไม้ 9 ชนิดช่วยขับถ่าย กากใยสูง แก้อาการท้องผูกชนิดไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.มะละกอสุก เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและหาทานง่าย… อ่านเพิ่มเติม..

1 month ago

This website uses cookies.