ประจวบคีรีขันธ์ – ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ตามรวบลูกจ้างสาว สำนักงานจังหวัด ปลอมลายเซ็นยักยอกเงินหลวง 33 ล้าน ใช้เล่นพนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2563 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามมอบอำนาจ พร้อมสั่งการให้ นางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกันยา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังมีการตรวจสอบพบพนักงานวิชาการการเงินและบัญชี ที่สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการรวม 33 ล้านบาท จากนั้นได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์
ต่อมา พนักงานสอบสวนได้นำหลักฐานขอศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับที่ จ. 47/63 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน จับกุม นางสาวขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี บุตรสาวของอดีตกำนัน ต.คลองวาฬ พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัด อยู่บ้านเลขที่ 82/21 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนได้เดินทางไปที่สำนักงานจังหวัด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด ขณะ นางสาวขนิษฐา กำลังปฏิบัติหน้าที่ เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา จึงแสดงหมายศาลพร้อมควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายักยอกเงิน 33 ล้านบาทจริง ก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยใช้วิธีการปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่าย และนำเงินบางส่วนไปเล่นการพนันออนไลน์
นายพัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้หัวหน้าหน่วยงานดังกล่าวชี้แจง หลังจากพบว่า นางสาวขนิษฐา ยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 กระทั่งตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง เงินที่ตกค้างในบัญชีที่ใช้ทำสัญญาประกันงานกับผู้รับเหมาในหน่วยงานต่างๆ เข้าบัญชีชื่อญาติ หลังจากนั้นจะนำเงินที่ได้ไปเล่นการพนันออนไลน์ หากเล่นได้จะนำเงินหมุนเวียนกลับมาคืนในระบบ ซึ่งส่วนตัวยังข้องใจว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวในสถานะเป็นพนักงานจ้างต่อสัญญาการทำงานครั้งละ 2 ปี แต่สามารถเข้าถึงระบบบัญชีการเงินของหน่วยงาน และมีการโอนเงินเข้าบัญชีญาติสนิทอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
“เนื่องจากขั้นตอนการทำงานจะต้องมีการใช้รหัสผ่านในระบบสารสนเทศเพื่อความปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้ได้กำชับให้หัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากคณะกรรมการฯ สอบข้อเท็จจริงพบว่ามีข้าราชการและลูกจ้างรายใด มีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดต่อไป ล่าสุดทราบว่าในการฝากขังที่ศาลพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากหน่วยงานราชการได้รับความเสียหายจากวงเงินจำนวนมาก” นายพัลลภ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นบุตรสาวของอดีตกำนัน ต.คลองวาฬ รายหนึ่ง ที่สนิมสนมกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่ง ที่ร่วมกันทำธุรกิจที่ชายแดนไทย–เมียนมา เมื่อหลายปีก่อน