“พ่อท่านบุญให้ ปทุโม” หรือ “พระครูพิศาลวิหารวัตร” วัดท่าม่วง ต.ปากพูน อ.เมือง จ. นครศรีธรรมราช ถือเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูป และได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า
ที่ผ่านมา ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม หลายต่อหลายรุ่น มอบให้แก่คณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนที่เลื่อมใสศรัทธา จนเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นผู้มีวิทยาคมทรงพุทธคุณเข้มขลัง
ปัจจุบัน พ่อท่านบุญให้ สิริอายุ ๙๐ พรรษา ๗๐ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าม่วง วัดท่าม่วง ต.ปากพูน อ.เมือง จ. นครศรีธรรมราช
อัตโนประวัติ เกิดในสกุล สุขขนาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๗๑ ณ หมู่บ้านบางทองคำ ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสงฆ์ และนางทองนวล สุขขนาน ครอบครัวมีพี่น้อง ๙ คน ท่านเป็นคนที่ ๖
ในช่วงวัยเยาว์ ท่านมีอุปนิสัยเรียบร้อย เป็นเด็กดี ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่นมีความประพฤติเรียบร้อย จิตใจฝักใฝ่สนใจหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เป็นคนขยันขันแข็ง มีจิตใจเมตตากรุณามาตั้งแต่วัยเยาว์ แม้กระทั่งวัวที่เลี้ยงไว้ไถนา ท่านให้ความรักดูแลเป็นอย่างดี จะคอยตัดหญ้าให้กินมาโดยตลอด
กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบททดแทนคุณบุพการี เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๑ ณ วัดพระหอม ต.บ้านกลาง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีพระธรรมปาลาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดฝาก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า ปทุโม มีความหมายว่า ดอกบัว
เมื่อได้อุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม รวมทั้งได้ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิชาจากพระครูทักษิณธรรมสาร ตลอดเวลา ๓ พรรษา ท่านได้คอยปรนนิบัติรับใช้พระครูทักษิณธรรมสาร ซึ่งเป็นลูกศิษย์พ่อท่านจับ วัดท่าลิพง อย่างใกล้ชิด ได้รับเมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาคาถาอาคมต่างๆ ให้อย่างครบถ้วน
พ่อท่านได้หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิทยาคมต่างๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนเชี่ยวชาญ เกิดพลังสมาธิอย่างน่าอัศจรรย์ สรรพวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนจากพระครูทักษิณธรรมสารแห่งวัดพระหอม เป็นวิชาสายเดียวกับพ่อท่านเอื้อม แห่งวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่
ต่อมา พ.ศ.๒๔๙๔ ท่านได้เดินทางมายังภาคกลาง แถบเมืองหลวง ได้อยู่จำพรรษาที่วัดเขมาภิรตาราม อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยเป็นเวลา ๑๓ พรรษา
หลังจากนั้น อาจารย์ก็ให้พ่อท่านบุญให้ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าบันเทิงธรรม เขตบางกอกน้อย ซึ่งที่นั้นท่านได้บูรณะซ่อมแซมกุฏิ สร้างศาลา โรงธรรม เสนาสนะต่างๆ ครบ ๓ พรรษา
กระทั่งปี พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระหอมเป็นเวลา ๑ พรรษา ก่อนย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เป็นเวลา ๖ พรรษา
ณ ที่แห่งนี้เอง ที่พ่อท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาต่างๆ กับพระอาจารย์สำนักเขาอ้อ หลายๆ ท่าน เช่น พระสมุห์สงฆ์ วัดตะโหมด, พระครูกาชาด วัดดอนศาลา, พ่อท่านนำ, พ่อท่านทอง เป็นต้น
จวบจนปี ๒๕๑๓ พ่อท่านบุญให้ ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าม่วง ซึ่งในตอนที่ท่านเข้ามาอยู่ใหม่นั้น มีเพียงพระหลวงตาอายุ ๘๐ ปี อยู่เพียงรูปเดียว กับวัดที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม มีเพียงโบสถ์เก่ากับกุฏิผุพังเท่านั้น
ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ในปีรุ่งขึ้น พ่อท่านบุญให้สามารถชักชวนให้ชาวบ้านมาบูรณะซ่อมแซมวัด เปลี่ยนเสาโบสถ์ หลังคาและสร้างผนังโบสถ์ พร้อมกันนี้ ยังเป็นองค์อุปถัมภ์ในการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ของโรงเรียนวัดท่าม่วง ในปี พ.ศ.๒๕๑๔ สร้างหอระฆัง พ.ศ.๒๕๑๕ สร้างเมรุ พ.ศ.๒๕๑๗ สร้างกุฏิและศาลาการเปรียญ
พ.ศ.๒๕๒๘ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลปากพูน
พ่อท่านบุญให้ เป็นพระที่บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวนครศรีธรรมราช เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของลูกศิษย์ซึ่งเป็นทหารกล้าของกองทัพภาคที่ ๔ ค่ายวชิราวุธ ต่างล้วนเคยเข้ากราบนมัสการพ่อท่านบุญให้ และท่านได้มอบตะกรุดให้พกติดตัวไปปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทหารหาญรายหลาย ต่างมีประสบการณ์แคล้วคลาดกันมาหลายหน จนเป็นที่เลื่องลือว่า ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งวิทยาคมด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ผู้ที่มีวัตถุมงคลของท่านไว้บูชาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในหน้าที่การ งาน ค้าขาย และโชคลาภ ผู้ที่ได้บูชาพระเครื่องของหลวงพ่อบุญให้ไปต่างร่ำลือในเรื่องพุทธคุณในด้าน คงกระพันชาตรี เมตตา ค้าขาย โชคลาภ กันอยู่เนืองๆ
พ่อท่านบุญให้ เป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสของเมืองนครศรีธรรมราช ได้สืบทอดวิชาและวัตรปฏิบัติตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ได้สั่งสอนเอาไว้ได้ เป็นอย่างดี เป็นที่เจริญศรัทธาของสาธุชน
พ่อท่านบุญให้ ได้นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคม เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้ประชาชนทั่วไป ได้ยึดหลักธรรมคำสอนตามแนวทางของพระพุทธศาสนาเป็นวิถีสำคัญในการประพฤติ ปฏิบัติธรรมและเข้าถึงธรรมะได้อย่างง่าย
ปัจจุบัน ท่านมีความเป็นอยู่อย่างสงบเรียบง่าย กราบไหว้พระดีเปี่ยมด้วยเมตตาถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อบุญให้ ที่วัดท่าม่วง มีความสะดวกสบาย เนื่องจากวัดท่าม่วงตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เส้นทางคมนาคมสะดวกโดยการที่ได้ไปกราบไหว้พระดี เปี่ยมด้วยเมตตาถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอย่างยิ่งในปัจจุบัน (๒๕๖๖) พ่อท่านบุญให้ สิริอายุ ๙๕ ปี พรรษาที่ ๗๕ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าม่วง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ขอบคุณเจ้าของภาพ และข้อมูลโดย ข่าวสด ออนไลน์