ทีมสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตตรัง ทำการผ่าซากพะยูนเพศเมีย ที่พบลอยตายใน จ.กระบี่ เป็นตัวที่ 4 ในรอบปี เบื้องต้นพบเป็นการตายอย่างเฉียบพลันและมีรอยถูกกระแทกบริเวณส่วนหัว คาดน่าจะถูกพะยูนตัวอื่นวิ่งชนในช่วงที่มีการต่อสู้กัน แต่ไม่พบรอยโรคอื่น
วันที่ 20 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 กระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนล่าง จ.ตรัง นำซากพะยูนที่พบลอยตายบริเวณท่าเทียบเรือเทศบาลทรายขาว หมู่ที่ 4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เคลื่อนย้ายมายังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำราชมงคลตรัง เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตตรัง ทำการผ่าพิสูจน์ซากพะยูนตัวดังกล่าว โดยพบเป็นเพศเมีย อายุประมาณ 20 ปีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม ความยาว 183 เซนติเมตร เบื้องต้นไม่พบรอยโรคอื่น
นอกจากรอยเขียวช้ำขนาดใหญ่บริเวณส่วนหัว และเป็นการตายแบบเฉียบพลัน ส่วนของทางเดินอาหารมีหญ้าทะเลอัดแน่นเต็มกระเพาะและลำไส้ แต่ไม่สามารถตรวจปอดและอวัยวะอย่างอื่นได้ เนื่องจากมีสภาพเน่าเปื่อยแล้ว คาดน่าจะถูกพะยูนที่ตัวใหญ่กว่าพุ่งเข้าชนอย่างจังและนับเป็นพะยูนที่ตายลงในท้องทะเลจ.กระบี่เป็นตัวที่ 4 ในรอบปี ซึ่งทีมสัตวแพทย์ฯได้เก็บตัวอย่างผิวหนัง ฟัน และโครงกระดูกเพื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอและทำการวิจัยต่อไป
ด้านสัตวแพทย์หญิง ปิยรัตน์ คุ้มรักษา นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่างกล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการผ่าซากพะยูนแล้ว เบื้องต้นพบมีรอยถูกระแทกจากพะยูนตัวอื่น ๆ ในฝูง ส่วนทางเดินอาหารมีอาหารอัดแน่นเต็มกระเพาะและลำไส้ โดยกินอาหารได้ดีอยู่ เป็นการตายเฉียบพลันไม่ได้ป่วย แต่จากสภาพเน่ามากไม่สามารถดูรอยโรคหรือระบุสาเหตุอื่น ๆ ได้