รองโฆษก ตร.เผยคณะพนักงานสืบสวนชี้ 3 ตำรวจสืบสวนภาค 8 บุกจับพ่อค้าหอยแครง เรียกเงิน 5 ล้าน เข้าข่ายความผิดอาญา 3 ข้อหาหนัก คาดสัปดาห์หน้ารู้ผลสอบข้อเท็จจริง จ่อตั้งกรรมการสอบวินัยต่อ
วันนี้ (23 พ.ค.)พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 3 นาย ที่เข้าจับกุมพ่อค้าหอยแครงและเรียกเงินเป็นการแลกเปลี่ยนกับที่ไม่ถูกดําเนินคดี ว่า ล่าสุดได้รับรายงานจาก ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า วันนี้ (23 พ.ค. 63) คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในส่วนคดีอาญา ที่ พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม ได้ร่วมกันสอบปากคำ นายอนุชา บินมูซา ผู้กล่าวหา พร้อมทั้งให้ นายอนุชา นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำให้การ และ ได้ร่วมสอบปากคำพยาน ผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก
จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น เห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นาย มีความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตาม ป.อาญา ม.148 , เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือ ยอมจะรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ตาม ป.อาญา ม.149 และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ป.อาญา ม.157
สำหรับการดำเนินการทางวินัย ในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งได้ทำงานควบคู่กับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนและคาดว่าจะสามารถรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ภายในสัปดาห์หน้า หากพบว่ามีมูล ก็จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และหากมีความผิดชัดแจ้งก็จะดำเนินการพิจารณาลงโทษทางวินัย หรือ มีคำสั่งให้ออกจากราชการ
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยทาง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในส่วนของคดีอาญา และ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในส่วนของการดำเนินการทางวินัย ได้มีการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานไปแล้วหลายปาก ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เร่งคลี่คลายข้อสงสัย ในทุกประเด็น ด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับประชาชน