สุราษฎร์ธานี – พลตำรวจตรีพีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 กล่าวถึงการติดตามบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศเกินกฏหมายกำหนดว่า นโยบายการกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยเกินกฏหมายกำหนด หรืออาจใช้ประเทศไทยเป็นช่องทางในการทำผิดกฏหมายนั้น เรื่องนี้ พลตำรวจโทรสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้สั่งการและกำชับให้เร่งติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเหล่านี้ มาดำเนินคดีและผลักดันออกประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำโดย ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ออกตรวจสอบการกระทำความผิดในพื้นที่เกาะพะงัน จว.สุราษฎร์ธานี
ซึ่งต่อมาสืบทราบว่า มีชาวต่างชาติได้หลบมาพักอาศัยในพื้นที่เป็นเวลานาน ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน และเมื่อทำการตรวจสอบพบชาวต่างชาติรายดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง จึงได้ทราบว่าคนต่างชาติดังกล่าว ชื่อนายจัสติน ออคกูชูคู อาร์คัม (Mr.Justine Oguchukwu Ohakam) สัญชาติไนจีเรีย อายุ 35 ปี ได้นำหนังสือเดินทางประเทศไนจีเรีย เลขที่ A10054215 มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบพบว่า นายจัสตินฯ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่าประเภท นักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2562 โดยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2562 (ซึ่งอยู่เกินกำหนดอนุญาต 210 วัน) จึงได้แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ฯจึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป