พระอุปัชฌาย์ปลอด วัดนาเขลียง เบญจภาคีเหรียญเมืองนครฯ เป็น ๑ ใน ๕ เหรียญพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าของนครศรีธรรมราชที่ได้รับความนิยมสูง”
หลวงพ่อปลอด ติสฺสโร พ่อท่านปลอด วัดนาเขลียง ประวัติพ่อท่านปลอด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีความรู้ทางไสยศาสตร์ หลวงพ่อปลอด เป็นที่พึ่งพาของชาวบ้านเมื่อยามเดือนร้อน เป็นที่เคารพนับถือของชาวนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก
เพราะชื่อเสียงของท่านกระฉ่อนไปทั้งสี่ทิศกินตำแหน่ง เจ้าคณะปกคลุ่มอำเภอฉวาง ,ช้างกลาง ,ถ้ำพรรณรา ,นาบอน และ ทุ่งใหญ่
ประวัติหลวงพ่อปลอด วัดนาเขลียง
หลวงพ่อปลอด ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๐ ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ณ บ้านเกาะใหญ่ อ.เมือง จ.สงขลา บิดาชื่อ เปรม มารดาชื่อ เอียด (สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุลใช้) มีพี่น้องรวมกัน ๓ คน คือ นางหนู หลวงพ่อปลอดและนายผอมหรือพระผอม (บวชอยู่ ณ วัดบ่อท่อ อ.ระโนด จ.สงขลา)
เมื่อยังเยาว์”หลวงพ่อปลอด”ได้เล่าเรียนหนังสือที่บ้านพ่อตาขุน(พ่อเฒ่าบ้าน ในสมัยนั้น) เมื่ออายุได้ ๒๐ ปี ได้ถูกเกณฑ์ทหารไปรบที่เมืองไทรบุรี เจ้าเมืองแขกเป็นกบฏ พ่อท่านปลอด กลัวจะถูกเกณฑ์ทหารจึงได้หลบขึ้นไปอาศัยกับญาติที่บนภูเขาในท้องที่ ต.เกาะใหญ่
ภายหลังเมื่อต้องการที่จะพ้นความผิด จึงได้ตกลงที่จะบวช ในที่สุดก็ได้บวชเมื่ออายุ ๒๐ ปีนั่นเอง ณ วัดพังตรี มีหลวงพ่อเสน เจ้าอาวาสวัดพังตรีเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแก้ว เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ต.ระวะ อ.ระโนด เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พ่อท่านปลอด บวชแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแจ้งกับหลวงพ่อแก้วเป็นเวลาถึง ๑๕ พรรษา ซึ่งหลวงพ่อแก้วเป็นพระที่มีความรู้ทางไสยศาสตร์ เวทย์มนต์ คาถาอาคมต่าง ๆเป็นที่เคารพนับถือของชาว ต.ระวะ ตลอดจนตำบลใกล้เคียงเป็นอันมาก หลวงพ่อปลอดจึงได้ศึกษาธรรมะและวิชาทางไสยศาสตร์ ตลอดจนวิชาการต่าง ๆ จากอาจารย์แก้วจนชำนาญ
แล้วพ่อท่านปลอดได้ออกจากวัดแจ้งเมื่ออายุประมาณ ๓๕ ปี เดินทางมายัง อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช พักอยู่ที่วัดบางทองคำ ซึ่งขณะนั้นมีหลวงพ่อนาคเป็นเจ้าอาวาส เพื่อต้องการนำเรือไปแข่งกับเรือของวัดเนินหนองหงษ์ จ.สงขลา ได้นำเรือไป ๑ ลำ แต่ก็แข่งไม่ชนะ พ่อท่านปลอดเลยเดินทาง กลับไปยัง อ.ปากพนัง อีก ภายหลังต้องการไปหาเรือที่ อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
หลวงพ่อปลอดจึงได้เดินทางไปยังวัดกะเบียดกับพวกอีก ๕ คน แต่วัดกะเบียดไม่มีเรือ เลยได้ไปพบกับหลวงพ่อบัว เจ้าอาวาสวัดนาเขลียง ได้เรือชื่อพยอมไป ๑ ลำ พาออกเดินทางไปตามคลองแม่น้ำตาปี ออกบ้านดอน จ.สุราษฏร์ธานี เลียบฝั่งไปถึงสงขลา เอาเรือไปแข่งกับวัดเนินหนองหงส์แต่ก็ไม่ชนะอีก
แล้วต่อมาภายหลัง พ่อท่านปลอด ได้เดินทางกลับไปอยู่ วัดนาเขลียงอีกครั้งหนึ่ง ได้รู้จักกับ หมื่นณรงค์ จงจิตร (หรือขุนพิปูนเปรมประดิษฐ์) กำนันตำบลพิปูนและพ่อท่านแดง (พระครูรังสรรค์ อธิมุตต์)เจ้าอาวาสวัดหาดสูง เมื่ออายุประมาณ ๓๗ ปี ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๔๕๑ หลวงพ่อบัว(เจ้าอาวาสในขณะนั้น)ได้มรณภาพลง ชาวบ้านบ้านนาเขลียงจึงได้นิมนต์ หลวงพ่อปลอดให้เป็นเจ้าอาวาสวัดนาเขลียง นับแต่นั้นมา
ประวัติความเป็นมา : บ้านนาเขลียง เมื่อประมาณ ๓๐๐ ปีมาแล้ว มีผู้คนอพยพเพื่อหนีภัยสงคราม และต้องการหาที่ทำกินที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งได้มาพบกับแหล่งๆหนึ่งซึ่งเป็นที่ราบกว้างใหญ่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นาๆชนิด และที่พบมากที่สุดคือต้นเขลียง ชาวบ้านจึงได้เรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านนาเขลียง” เป็นที่ราบสูงสลับเนินดิน ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำตาปีทางทิศตะวันตก มีฝนตกชุกตลอดปี
ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน ทำนา ทิศเหนือ ติดต่อ ต.กะทูน อ.พิปูน , ทิศใต้ ติดต่อ ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง, ทิศตะวันออก ติดต่อ ต.นาแว อ.ฉวาง , ทิศตะวันตก ติดต่อ ต.กะเปียด อ.ฉวาง เป็นที่ราบสูงสลับเนินดิน ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำตาปีทางทิศตะวันตก มีฝนตกชุกตลอดปี ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน ทำนา โดยภูมิปัญญาบรรพชนรวมกันทำคันนบกั้นน้ำ ผันเข้าสู่แปลงนาเรียกว่า “คันนบคลองเภา” ใช้สืบต่อกันมา
หลวงพ่อปลอด ติสสโร วัดนาเขลียง มรณภาพด้วยโรคลมปัจจุบันเมื่อปี พ.ศ. 2482 รวมอายุได้ 72 ปี
วัดนาเขลียง ในสมัยที่หลวงพ่อปลอดเป็นเจ้าอาวาสเป็นยุคที่ชุมชนเจริญ รุ่งเรืองมาก “หลวงพ่อปลอด” ท่าน เป็นพระที่มีความรู้ทางไสยศาสตร์ เวทย์มนต์ คาถาอาคมต่าง ๆ เป็นที่เคารพนับถือของชาวนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมากเพราะ “พระอุปัชฌาย์ปลอด วัดนาเขลียง” ชื่อเสียงของท่านกระฉ่อนไปทั้งสี่ทิศกับตำแหน่ง เจ้าคณะปกกลุ่มอำเภอฉวาง ,ช้างกลาง ,ถ้ำพรรณรา ,นาบอน และ ทุ่งใหญ่
ซึ่งในสมัยสงครามเอเชียบูรพา พระเครื่องวัตถุมงคลที่รับจากมือ”พ่อท่านปลอด” ไม่ว่าจะเป็นเครื่องราง ผ้ายันต์ ตะกรุด และเหรียญพ่อท่านปลอด รุ่นแรก ที่สร้างขึ้นมาในปี ๒๔๘๒ จัดเป็นสุดยอดปราถนาของประชาชนทุกชนชั้น สามารถปกป้องคุ้มครอง ผู้ที่พกพาพระเครื่องหลวงพ่อปลอด วัดนาเขลียง ให้แคล้วคลาดอันตรายต่างๆ จนถึงประสบการณ์ด้านคงกระพันมหาอุดที่ให้พบเจอกันบ่อยๆ
….บ้านนาเขลียงได้ประสบภัยเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๑ ทำให้วัดที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต กลายเป็นเหมือนวัดร้าง สิ่งปลูกสร้างภายในวัดโดนน้ำซัด เหลือความปาฎิหาริย์ “พระประธาน” ยังคงตั้งตระหง่าน แต่ตัวโบสถ์รอบข้างพังทลาย บ้านเรือนของชาวบ้านก็หายไปกับสายน้ำ ชาวบ้านบางรายที่ดินกลายเป็นลำคลอง

หลวงปู่กล่อม วัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช
ตอนเป็นสามเณรเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปลอด วัดนาเขลียง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังขารไม่เน่าไม่เปื่อย ก่อนวันมรณะภาพท่านได้สังเสียลูกศิษย์ ว่าร่างของท่านให้นำไปบรรจุที่วัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช อันเป็นบ้านเกิดของท่าน และสั่งห้ามมิให้เผา
ท่านสามารถรู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้า นามเดิมชื่อว่า พระธรรมวราลังการ วัดบุพผาราม กทม. หากเพื่อนสมาชิกมีโอกาสไปวัดเพ็ญญาติ ลองไปกราบของพรท่านนะครับ พระปฎิบัติดีและปฎิบัติชอบ มีโอกาสกราบไหว้จะเป็นบุญ ฉายาของท่าน คือ มีเหรียญท่าน พระไม่กัด สาเหตุพระท่านเมตตาสูงมาก ได้รับการยกย่องจากพระเถระหลายท่าน.
ขอบพระคุณเจ้าของภาพ ณ โอกาสนี้ด้วยเพื่อเผยแพร่คุณงามความดีของท่านต่อไป.
เรียบเรียง – tumsrivichai.com