คนที่มักจะลืมง่าย ผ่านไปยังไม่ถึงนาทีก็ลืมเสียแล้ว “การดื่ม โกโก้อุ่น วันละแก้วจะช่วยเพิ่มความจำให้ดีขึ้น” เพราะในโกโก้จะมีสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งสามารถช่วยให้สมองของเราทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง
การทำโกโก้อุ่น นำผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะแล้วก็ใส่น้ำร้อน และนมสดจืด ลงไป 120 มล. ต่อด้วยทำการคนให้ละลาย ใส่น้ำตาลทราย 1 ช้อนกาแฟ หรือแล้วแต่ชอบ ทำการคน ๆ ให้เข้ากันหลายรอบหน่อย **วิธีทำให้ผงโกโก้ละลายเร็วคือ คนผงโกโก้กับน้ำร้อนก่อนค่อยเติมอย่างอื่น คนให้ละลายก่อนอย่างอื่นมาใส่ทีหลังได้นั่นเอง
จากนั้นเราก็ดื่มวันละ 1 แก้วอุ่น ๆ แบบนี้จะทำให้ร่างกายรู้สึกดีและสมองได้รับการฟื้นฟูเพิ่มอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วโกโก้ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างด้วยนะ ซึ่งการดื่มโกโก้อุ่นนั้น มีคนอายุ 50-60 ปี ที่เขาทำงานวิจัยออกมาแล้วว่าช่วยทำให้ความจำดีขึ้นจริง ๆ
โกโก้ อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ มาดู 8 ประโยชน์ของโกโก้
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
โกโก้อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มักพบในผัก ผลไม้ ชา ช็อคโกแลต และไวน์ ช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต และยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเส้นเลือดอีกด้วย แต่กระบวนการในการแปรรูปเป็นช็อคโกแลตหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็อาจจะทำให้โพลีฟีนอล (Pholyphenols) ลดลงได้
2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
ฟลาโวนอยด์ในโกโก้ จะไปช่วยเพิ่มไนตริกออกไซด์ ที่มีส่วนช่วยเรื่องเลือกและหัวใจ ช่วยระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ช่วยขยายหลอดเลือดลดความตึงเครียดของหลอดเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) จึงส่งผลดีต่อหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์อัมพาต)
3. บำรุงสมอง
ฟลาโวนอยด์ในโกโก้จะช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ช่วยเรื่องความจำ ความคิด การตัดสินใจ การรับรู้ และสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้
4. ช่วยให้อารมณ์ดี
จากการศึกษาหลายการศึกษาพบว่า การกินโกโก้ส่งผลดีต่ออารมณ์ และภาวะซึมเศร้า ช่วยลดความเครียด และรทำให้ผ่อนคลาย คาดว่าในโกโก้อาจจะมีสารที่ไปกระตุ้นให้สมองหลั่ง สารโดปามีน และสารเซโรโทนิน (สารแห่งความสุข) จึงทำให้คนเรามีอารมณ์ดีและมีความสุขหลังได้ดื่มหรือกิน
5. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
หลายคนรู้กันดีว่าช็อคโกแลต ถ้ากินมาก ๆ จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับโกโก้และดาร์กช็อคโกแลต เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฟลาโวนอยด์ ในโกโก้จะช่วยชะลอการย่อยและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตในลำไส้ โดยจะไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ที่เป้นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต
6. ควบคุมน้ำหนัก
สารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในโกโก้ นอกจากจะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดแล้ว ยังซึ่งเป็นช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โกโก้เหมาะกับคนที่ลดน้ำหนัก จากการศึกษาพบว่า คนที่กินช็อคโกแลตบ่อยกว่ามีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่าคนที่ไม่กินช็อคโกแลต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเลือกกินให้ถูกวิธีด้วย
7. รักษาโรคหอบหืด
ในโกโก้มีสารธีโอโบรมีน (Theobromine) ที่ช่วยบรรเทาอาการไอเรื้อรัง และสารธีโอฟิลลีน (Theophylline) ที่ช่วยช่วยขยายปอด ให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากการทดลองกับสัตว์พบว่า โกโก้สามารถช่วยรักาาอาหารหืดหอบได้ ช่วยขยายทางเดินหายใจ และลดการหนาตัวของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้กับมนุษย์
8. ฟันสวย ผิวใส
โกโก้ดีต่อสุขภาพฟัน สามารถป้องกันแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ แถมยังดีต่อสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ฟลาโวนอยด์จะช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ และช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว จากงานวิจัยในวารสารโภชนาการของยุโรปพบว่า การกินหรือดื่มโกโก้เป็นเวลานาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น 25% เลยทีเดียว
สำหรับปริมาณโกโก้ที่ควรดื่มต่อวันก็คือ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน โดยหลีกเลี่ยงการผสมน้ำตาลหรือนมข้น แนะนำให้ผสมกับนมแทน ซึ่งอาจจะมีข้อเสียอยู่บ้าง คือ นมจะทำให้การดูดซึมของโกโก้ลดลง แต่อย่างไรก็ดีกว่าการผสมน้ำตาลหรือนมข้นแน่นอนจ้า