ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ ณ ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ท้าววสวัตตีมาร ได้เข้ามาขัดขวาง พร้อมด้วยเหล่าเสนามารจำนวนมาก เพื่อให้พระองค์เกรงกลัว และลุกหนีไป แต่พระองค์ยังทรงประทับนิ่ง ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์นั้น ทำให้พญามารโกรธมาก จึงสั่งให้มารบริวารทั้งหลายเข้าทำร้าย พระพุทธองค์จึงระลึกถึง บารมี ๓๐ ทัศ ที่ทรงบำเพ็ญมาในทุกภพชาติ โดยขอให้แม่พระธรณีเป็นพยาน ระหว่างนั้นแม่พระธรณีจึง โผล่พ้นจากผืนดินขึ้นมา แล้วทำกิริยาบิดมวยผมจนน้ำท่วม กระแสน้ำดังกล่าวได้พัดพามารทั้งหลายให้ออกไปจากบริเวณนั้น และในที่สุด พญามารวสวัตตี ก็ยอมแพ้
ด้วยพุทธประวัติในตอนนี้ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระพุทธรูปปางชนะมาร และเป็นที่มาแห่งพระคาถา “พระพุทธเจ้าชนะมาร” ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีอานุภาพขจัดภัยร้ายทั้งปวง ขจัดอุปสรรคที่
เปรียบได้กับมารผจญ และป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลาย โดยคาถา พระพุทธเจ้าชนะมารนั้น มีอยู่หลายตำรับ และหลายครูบาอาจารย์ โดยหนึ่งในนั้นที่นิยมสวดกันมาก คือ คาถา พระพุทธเจ้าชนะมาร โดย หลวงปู่มั่น ภูริ
ทัตโต พระอาจารย์ใหญ่แห่งสายกรรมฐาน เนื้อความของพระคาถามีดังนี้
คาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร
ตั้งนะโม ๓ จบ (ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
“ปัญจะมาเร ชิโน นาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง”
คำแปล :
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาพระพุทธองค์ ผู้ทรงชนะมารทั้งห้า ผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาวิมุติ
ผู้ทรงประกาศอริยสัจสี่ ผู้ยังให้พระธัมมจักรให้หมุนไป
ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้าเทอญ
(ใช้ท่องเพื่อป้องกันอันตรายทั้งปวง ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก)