แห่ผ้าห่มต้นโพธิ์ยักษ์!!ชาวพุทธร่วมแห่ผ้าห่มโพธิ์ยักษ์กลางวัดโพธิ์เสด็จ สืบสานต่อยอดแห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนคร-ร่วมเวียนเทียนมาฆบูชาอย่างเนืองแน่น
( 9 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานประเพณีวันมาฆบูชา ประจำปี 2563 ในวันสุดท้ายเมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ.2563ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนนับแสนคนร่วมกิจกรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2563 โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาพุทธศาสนิกชนได้ทยอยร่วมกันเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารอย่างต่อเนื่อง จนถึงเที่ยงคืนก็คงยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังเดินทางมาเวียนเทียนมาฆบูชาอย่างไม่ขาดสาย
ในขณะที่วัดโพธิ์เสด็จ หมู่ 8 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีกิจกรรม “แห่ผ้าห่มโพธิ์”ซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมประเพณี “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” โดยมีชาวพุทธกว่า 400 คนเดินทางมาร่วมพิธีจนแน่นวัด โดยพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปในวัดได้ประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชา และนำประชาชนสวดมนต์ไห้พระ ก่อนเทศนา 1 กัณฑ์ จากนั้นพระภิกษุ สามเณรและประชาชนได้ร่วมกันแห่ผ้าสี 3 สีประกอบด้วย สีขาว สีเหลือและสีน้ำเงิน เพื่อใช้ในการโอบห่มต้นโพธิ์ยักษ์ อายุนับพันปีกลางวัด โดยแห่เวียนรอบต้นโพธิ์และมณฑปหลวงพ่อสมภาร 3 รอบ ก่อนนำขึ้นไปโอบห่มต้นโพธิ์จากนั้นทั้งพระภิกษุ สามเณรและพุทธศาสนิกชนร่วมกันเวียนเทียนวันมาฆบูชารอบต้นโพธิ์และมณฑปหลวงพ่อสมภาร
หลังเสร็จพิธีแห่ผ้าห่มโพธิ์และเวียนเทียนมาฆบูชา ทางวัดได้นำข้าวมธุปายาสและน้ำมันที่ได้จากการกวนข้าวมธุปายาสมาแจกจ่ายผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดนำไปบริโภคเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งน้ำมันที่ได้จากการกวนข่าวมธุปายาสเชื่อว่าเป็นน้ำทันวิเศษที่สามารถนำไปใช้รักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกา เคล็ดขัดยอก รวมทั้งใช้ทาผิวจะทำไห้ผิวพรรณผ่องใส นอกจากนี้ประชาชนยังเขากราบนมัสการสรีระสังขารของพระครูโพธิสารประสาธน์ “พ่อท่านชม”อดีตเจ้าอาวาสมรณภาพละสังขารเมื่อวันวิสาขบูชา พ.ศ. 2561 และทางวัดได้บรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อกำหนดพระราชทานเพลิงศพต่อไป
นายสมบัติ สัตย์ชัย หัวหน้าคณะชาวบ้านที่เป็นประสานงานการจัดกิจกรรมวันมาฆบูชาวัดโพธิ์เสด็จทั้งหมด กล่าวว่า ในปีนี้เป็นปีแรกที่ทางวัดจะประกอบพิธีแห่ผ้าห่มต้นโพธิ์พันปีควบคู่ไปกับการแห่ผ้าขึ้นธาตุ เนื่องจากต้นโพธิ์ถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าพระศาสดาแห่งพุทธศาสนา และจะมีการสืบสวนประเพณีมาฆบูชาแห่ผ่าขึ้นธาตุ-แห่ผ้าห่มโพธิ์ วัดโพธิ์เสด็จต่อเนื่องไปทุก ๆ ปี ที่สำคัญในปีนี้ได้จัดเตรียมข้าวมธุปายาส หรือข้าวยาคู ,ยาโค ซึ่งเชื่อว่าเป็นข้าววิเศษ พร้อมน้ำมันที่ได้จากกระบวนการกวนข้าวมธุปายาส ซึ่งเชื่อว่าเป็นน้ำทันวิเศษเช่นกันไว้แจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีจำนวน 500 ชุด โดยเป็นการแจกฟรีไม่มีการจำหน่ายแต่อย่างใด
“สำหรับวัดโพธิ์เสด็จ เป็นวัดเก่าแก่ที่ก่อสร้างช่วงเดียวกับการก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ โดยในครั้งนั้นมีเจ้ากษัตริย์จากต่างเมืองหลายเมืองเสด็จมาร่วมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และมาพำนักในหมู่บ้านบริเวณวัดโพธิ์เสด็จในปัจจุบัน ห่างจากจุดที่ก่อสร้างพระบรมธาตุวรมหาวิหารประมาณ 2-3 กม. และได้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์มาปลุกเป็นที่ระลึกภายในวัดรอบองค์พระบรมธาตุ และได้ปลุกไว้ในหมู่ที่พำนัก 1 ต้น เมื่อกษัตริย์ต่างเมืองเสด็จกลับชาวบ้านได้ตั้งชื่อตนโพธิ์ต้นดังกล่าวว่า “โพธิ์เสด็จ”ก่อสร้างวัดขึ้นชื่อ“โพธิ์เสด็จ”เช่นกัน หมู่บ้านแห่งนี้จึงถูกเรียกว่า “บ้านโพธิ์เสด็จ” ในปัจจุบันหมู่บ้านโพธิ์เสด็จกลายเป็นตำบลหนึ่งของ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ทางด้านพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เสด็จ กล่าวว่า ต้นโพธิ์ถือเป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ เพราะพระพุทธเจ้าเสด็จตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ เรียกว่า “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” โดยต้นโพธิ์ยักษ์กลางวัดโพธิ์เสด็จสันนิษฐานว่าปลูกเมื่อครั้งการก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ โดยกษัตริย์ต่างเมืองที่มาร่วมสร้างพระบรมธาตุ ฯได้เสด็จมาพักนักในหมู่บ้านแห่งนี้ และนำหน่อพระศรีมหาโพธิ์ มาปลูกที่วัดพระมหาธาตุ ฯ และปลูกเป็นที่ระลึกไว้ในจุดที่มาพำนัก จนชาวบ้านเรียกว่าบ้านโพธิ์เสด็จ และมีการสร้างวัดขึ้นในเวลาต่อมา เรียกชื่อว่า “วัดโพธิ์เสด็จ”มาจนถึงทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากพระครูโพธิสารประสาธน์ หรือ “พ่อท่านชม” เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ มรณภาพหรือละสังขารเมื่อวันวิสาขบูชาปี 2561 ทางวัดได้บรรจุสรีระสังขารของท่านไว้ในโลงแก้วเพื่อกำหนดพระราชทานเพลิงศพ และทางวัดอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงภายในวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของพ่อท่านชมอดีตเจ้าอาวาส ที่ได้สร้างศาลาการเปรียญขนาดใหญ่รวมทั้ง ซุ้มทางเข้าวัดวัด 2 ด้าน ที่ค้างคาเอาไว้ โดยใช้งบประมาณไม้น้อยกว่า 10 ล้านบาท การก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณอีกนับล้านบาทจึงแล้วเสร็จทั้งหมด
จึงอยากจะบอกบุญเชิญชวนผู้ที่มีจิตศรัทธาทั้งหลายร่วมอนุโมทนาทำบุญสมทบทุนการก่อสร้างศาลาการเปรียญและซุ้มประตูให้แล้วเสร็จ โดยติดต่อขอร่มบริจาคสมทบทุนได้ที่พระราชวิสุทธิกวี โทร. 089-9737079 หลังก่อสร้างศาลาการเปรียญโดยซุ้มประตูวัดโพธิ์เสด็จแล้วเสร็จทางคณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราช จะประชุมกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพพระครูโพธิสารประสาธน์ “พ่อท่านชม” อดีตเจ้าอาวาสต่อไป”